Dr. Gary Chapman นักจิตวิทยาที่เชี่ยวชาญเรื่องการให้คำปรึกษาเรื่องชีวิตคู่ ผู้ที่ให้ความสนใจและศึกษาว่ามนุษย์เราเวลาที่แสดงออกถึงความรักต่อกันนั้นมีวิธีการอย่างไรบ้าง เขาได้ใช้เวลาในการศึกษาและค้นคว้าว่าวิธีการที่มนุษย์มีวิธีการอย่างไรในการแสดงออกต่อกันเพื่อที่จะสื่อสารว่า “ฉันรักเธอนะ” จนได้ข้อสรุปเป็นองค์ความรู้เรื่อง “ภาษารัก 5 ภาษา”
โดยแต่ละคนอาจจะมีรสนิยมหรือภาษารักที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่สำคัญคือใครมีภาษารักแบบไหนไม่ใช่เรื่องผิด แต่เราจะได้ประโยชน์หากสำรวจว่า
💭”ภาษารักแบบไหนที่เรามักใช้มอบให้คนรัก”💭
💭”เราต้องการภาษารักแบบไหน ในเวลาที่คนรักอยากมอบความรักให้”💭
สิ่งที่เราจะได้จากการสำรวจนี้คือการที่เราและคู่จะ “เรียนรู้และเข้าใจภาษารักและความต้องการของกันและกัน” เพื่อสื่อสารภาษารักออกมาได้ถูกทางตรงกับคู่ของตนเอง
💞5 ภาษารัก (The Five Love Languages)💞
1. Word of Affirmation การบอกรัก คิดถึง คำพูดให้กำลังใจ คำชื่นชม🗣💓
แม้จะมีคำว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูดนั้น ก็ไม่ได้แปลว่าคำพูดของคนเรานั้นไม่มีความหมาย เพราะสำหรับบางคน การที่ได้รับคำบอกรักหรือคำที่ช่วยยืนยันความรู้สึกรักต่อกันนั้นถือเป็นสิ่งที่มีความหมายมากกับเขา ซึ่งอาจไม่ได้หมายเพียงแค่การสื่อสารผ่านคำพูด แต่รวมถึงการเขียนหรือส่งข้อความด้วยเช่นกัน โดยนอกจากการบอกรักและคิดถึงแล้ว การสอบถามแสดงความห่วงใยใส่ใจ ให้กำลังใจกันและกันและชื่นชมยินดีต่อกันก็ล้วนมีความหมายมาก
**สิ่งสำคัญคือ ต้องพูดออกมาจากใจ รู้สึกจริง ๆก่อนพูด และบอกให้มากขึ้น
⚠️ข้อควรระวัง: เน้นพูดหวานแต่ไม่ได้รู้สึกจริง ๆ การพูดเพราะหน้าที่ การพูดเอาใจไว้ก่อนแต่ทำไม่ได้
2. Quality Time เวลาที่มีคุณภาพ Moment ดี ๆ/ทำกิจกรรมร่วมกัน 🪄⏳💞
ในภาษาที่ว่าด้วยเรื่องการมีเวลาคุณภาพนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องเน้นย้ำคือคำว่า “คุณภาพ” ซึ่งเป็นมากกว่าการที่คนสองคนอยู่ด้วยกันแบบแค่เอาตัวมาอยู่ด้วยกันแล้วต่างฝ่ายต่างทำกิจกรรมของตัวเอง แต่เวลาคุณภาพที่ดีหมายถึง ช่วงเวลาที่เรามีเวลาทำกิจกรรมร่วมกัน เลือกกิจกรรมที่ “ทั้งสองฝ่าย” สนใจทำร่วมกันจริง ๆ มีเวลาอยู่ด้วยกันและสามารถสื่อสารความรู้สึกของเราผ่าน moment ที่อยู่ด้วยกันได้ ทำความรู้จักตัวตนของกันและกัน ผ่านการใส่ใจรับฟัง แบ่งปันเรื่องราวอารมณ์ความรู้สึกซึ่งกันและกัน โดยที่ไม่ใช่แค่การพูดแต่เรื่องของตัวเอง
⚠️ข้อควรระวัง :
🔸 หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมอื่นขณะใช้เวลาร่วมกัน เช่น การเล่นโทรศัพท์ 📱
🔸 ความรักเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญของชีวิต แต่ความรักไม่ใช่องค์ประกอบที่สำคัญทั้งหมดของชีวิต บางคนต้องการเวลาจากคนรักมากจนอีกฝ่ายรู้สึกอึดอัด แต่แท้จริงแล้วความรักที่ดีจะเผื่อเวลาให้คนแต่ละคนได้มีเวลาทบทวนและอยู่กับตัวเอง จึงควรตระหนักว่ามนุษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการเวลาส่วนตัว เพราะเราทุกคนก็ต่างต้องมีเวลาคุณภาพกับตัวเองด้วยเช่นกัน
3. Receiving Gift การให้ของขวัญ 🎁💐
ในคนบางคนต้องการการบอกรักที่จับต้องได้และเห็นเป็นรูปธรรม แต่การบอกรักรูปแบบนี้ที่ถูกต้องไม่ได้วัดที่มูลค่าของของขวัญเสมอไป แต่เป็นการบ่งชี้ว่าเพราะ “ฉันคิดถึงเธอ ฉันจึงซื้อสิ่งนี้มาให้” นอกจากนี้การให้ของขวัญในช่วงเทศกาล โอกาสสำคัญ หรือของฝากจากการท่องเที่ยวก็ยังคงเป็นสิ่งที่สร้างความชุ่มชื้นหัวใจให้คู่รักได้เสมอ
⚠️ข้อควรระวัง : ไม่ควรให้สิ่งของเพื่อแสดงความรักตลอดเวลา เพราะอาจไม่เอื้อให้เราและคนที่เรารักรู้สึกว่าสิ่งนี้คือความรักจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่ไม่ค่อยมีเวลาให้กับคนรักแล้วใช้การคอยซื้อของมาให้แทน
4. Acts of Service การบอกรักด้วยกระทำที่เป็นการให้ความช่วยเหลือหรือบริการ 🙌🍳☔️
เป็นการกระทำที่มาจากใจของผู้ทำที่อยากดูแลอีกฝ่าย เช่น ทำอาหารให้ ทำความสะอาดให้ ช่วยถือของ ขับรถไปรับ-ส่ง ซึ่งในหลายครั้งคู่รักหลายคู่ก็มักจะตกหลุมพลางค่านิยมของสังคมที่มองว่าสิ่งนี้ควรเป็นการกระทำของเพศนี้ เช่น เพศหญิงเป็นเพศที่ควรทำงานบ้าน เพศชายควรทำหน้าที่ทำงานหาเงินหรือไปรับ-ส่ง จนทำให้มองว่าเป็นหน้าที่ของอีกฝ่ายและ “ละเลยการแสดงความรู้สึกขอบคุณยินดี” ในการกระทำเหล่านั้นของคนรัก ซึ่งการแสดงให้คนรักรู้ว่าเขาคู่ควรกับการได้รับคำขอบคุณยินดีนั้นรับเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในความสัมพันธ์
⚠️ข้อควรระวัง :
🔸ละเลยการแสดงความรู้สึกขอบคุณยินดีกับอีกฝ่าย เพราะมองว่าเป็นหน้าที่ที่เขาควรจะทำอยู่แล้วตามค่านิยมของสังคม เช่น เพศหญิงเป็นเพศที่ควรทำงานบ้าน เพศชายควรทำหน้าที่ทำงานหาเงินหรือไปรับ-ส่ง
🔸การดูแลที่มากเกินไปจนเกินความต้องการของอีกฝ่าย อาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดได้
5. Physical Touch การบอกรักด้วยการสัมผัส 🤝🫂❤️🔥
การสัมผัสนั้นมีหลายระดับ เช่น จับมือ กอด โอบ จูบ เพศสัมพันธ์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการสัมผัสกับคนรักเป็นเรื่องที่สามารถสื่อสารถึงความรักได้ ธรรมชาติสร้างให้มนุษย์ทุกเพศต่างมีความสุขเมื่อได้มีสัมพันธภาพทางกายกับคนที่ตนรัก
***ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องใช้การมีเพศสัมพันธ์ในการบอกรักเสมอไป เพราะการบอกรักด้วยการสัมผัสต้องอยู่ในระดับที่อีกฝ่ายพร้อมและยินยอมต่อกัน โดยต้องอยู่บนพื้นฐาน “การใส่ใจความรู้สึกของคนรัก” โดยไม่ละเมิดบีบบังคับให้อีกฝ่ายทำในสิ่งที่เขาไม่พร้อมหรือไม่ต้องการ ดังนั้นจึงควรหาจุดที่พอดีกับคนที่เรารักเพราะหากมากเกินไปอาจทำให้เขารู้สึกอึดอัดได้
⚠️ข้อควรระวัง : Physical Touch ไม่ใช่เรื่องเพศสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว และการสัมผัสต้องอยู่ในระดับที่สองคนรับได้และยินยอม (consent) โดยไม่กดดันบีบบังคับกัน
สรุปความรู้จากการเสวนาในหัวข้อ “love languages เพราะทุกคนมีวิธีบอกรักเป็นของตัวเอง”
วิทยากร ผศ.นพ.ชยุติ วงศ์เลิศวิศวกร จิตแพทย์และอาจารย์ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
จัดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 21 ก.พ. 2567
______________________________________________________________________________
🌸MU Friends – ศูนย์ให้คำปรึกษา🌸
ช่องทางติดตาม MU Friends
Facebook : Mahidol Friends
YouTube: www.youtube.com/channel/UC6BFGzsxWkzh-j5IyfI-odg
IG: https://www.instagram.com/mufriends
Website : https://sites.google.com/view/mufriends/home
MU Hotline (สายด่วนสุขภาพใจสำหรับนศ.มหิดล) : 088 8747385