กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)

ด้วยรัฐบาลมีนโยบายในการลดข้อจำกัดของการเข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาชั้นสูง คณะรัฐมนตรีจึงมีมติ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 ให้ดำเนินการโครงการเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.) ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 โดยให้ทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนสำหรับนิสิตนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาชั้นสูง และเพิ่มความช่วยเหลือเป็นค่าครองชีพระหว่างศึกษาสำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ที่ศึกษาในระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาชั้นสูงในหลักสูตร สาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักและมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคนและให้ผู้รับทุนเริ่มใช้คืนเงินกู้ โดยจะยึดโยงกับความสามารถในการหารายได้ในอนาคต

คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์กู้ยืมเงิน

1) ผู้ขอรับทุนต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

(1) มีสัญชาติไทย

(2) อายุไม่เกิน 30 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ 1 มกราคม 2557

(3) มิได้เป็นผู้รับทุนรายเก่าของกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.)

(4) เป็นนิสิตหรือนักศึกษารายใหม่ที่ขอรับทุนเพื่อเข้าศึกษาในชั้นปีที่ 1 ในปีการศึกษา 2556 ที่มิใช่ผู้กู้ยืมเงินรายเก่าของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) หรือเป็นนิสิตหรือนักศึกษาที่เป็นผู้กู้ยืมเงินรายเก่าของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) ที่เปลี่ยนระดับจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าทั้งสายสามัญและสายอาชีพเป็นระดับอาชีวศึกษาชั้นสูงหรือเทียบเท่าระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า ในปีการศึกษา 2556

(5) เป็นนิสิตหรือนักศึกษาในสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนในระดับการศึกษาระดับอนุปริญญาหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) หรือเทียบเท่าระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ตอบรับให้เข้าศึกษา โดยผ่านการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด

2) นิสิตหรือนักศึกษาผู้มีสิทธิขอรับทุนจะต้องศึกษาอยู่ในสถานศึกษาที่มีรายชื่อเข้าร่วมโครงการเงินกู้เพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคตตามประกาศของสำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา

3) นิสิตหรือนักศึกษาผู้มีสิทธิขอรับทุนจะต้องศึกษาในระดับการศึกษาและหลักสูตร/ประเภทวิชาและสาขาวิชา ดังนี้

(1) ระดับการศึกษา ระดับอนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) หรือเทียบเท่า ระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

(2) หลักสูตร/ประเภทวิชาและสาขาวิชา เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกองทุนเพื่อการศึกษา เรื่อง กำหนดหลักสูตร/ประเภทวิชาและสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักและมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคน สำหรับนิสิตหรือนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการปีการศึกษา 2556 พ.ศ. 2556

4) นิสิตหรือนักศึกษาสามารถขอรับทุนได้เพียงหนึ่งหลักสูตรในแต่ละปีการศึกษาไม่เกินอัตราค่าเล่าเรียนที่สถานศึกษาเรียกเก็บ ตามจำนวนปีที่กำหนดไว้แต่ละหลักสูตรกรณีที่ผู้ขอรับทุนมีสิทธิเบิกค่าเล่าเรียนจากหน่วยงานของรัฐให้ผู้ขอรับทุนขอรับทุนได้เฉพาะค่าเล่าเรียนส่วนต่างเท่านั้น ทั้งนี้ ต้องไม่เกินอัตราที่กำหนด

5) นิสิตหรือนักศึกษาที่มีสิทธิได้รับค่าครองชีพ ต้องเป็นผู้มีรายได้ครอบครัวไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี และให้ได้รับค่าครองชีพในอัตราเดือนละ 2,200 บาท

การพิจารณารายได้ครอบครัว ให้ผู้บริหารสถานศึกษาพิจารณากลั่นกรองข้อมูลตามหลักเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

(1) รายได้รวมของนิสิตหรือนักศึกษาผู้ขอรับทุนรวมกับรายได้ของบิดาและมารดากรณีที่บิด มารดาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองไม่ใช่บิดา มารดา

(2) รายได้รวมของนิสิตหรือนักศึกษาผู้ขอรับทุนรวมกับรายได้ของผู้ปกครองในกรณีที่ผู้ใช้อำนาจปกครองไม่ใช่บิดา มารดา

(3) รายได้รวมของนิสิตหรือนักศึกษาผู้ขอรับทุนรวมกับรายได้ของคู่สมรสในกรณีที่ผู้ขอรับทุนสมรสแล้ว

6) นิสิตหรือนักศึกษาผู้ใดประสงค์จะขอรับทุนให้ยื่นคำขอกู้ผ่านระบบที่สำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาจัดทำไว้ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ภายในระยะเวลาที่กำหนด เว้นแต่คณะกรรมการจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

7) กองทุนเพื่อการศึกษา จะจ่ายทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนให้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(1) ค่าเล่าเรียน จ่ายให้สถานศึกษาที่ผู้รับทุน(ผู้กู้ยืมเงิน)โดยตรงโดยโอนเข้าบัญชีชื่อ “กรอ.(ระบุชื่อสถานศึกษา)” ของกองทุนเพื่อการศึกษา กระทรวงการคลัง ตามประกาศคณะกรรมการกองทุนเพื่อการศึกษาเรื่อง การกำหนดหน้าที่ วิธีปฏิบัติ และความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่เข้าร่วมกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.) ปีการศึกษา 2555 พ.ศ. 2555

(2) ค่าครองชีพ จ่ายให้นิสิตหรือนักศึกษาที่มีสิทธิได้รับค่าครองชีพผู้รับทุน(ผู้กู้ยืมเงิน) โดยโอนเข้าบัญชีของผู้รับทุน(ผู้กู้ยืมเงิน) ตามที่ได้แจ้งให้แก่กองทุนเพื่อการศึกษา

ขั้นตอนการขอกู้ยืม กรอ.

นักเรียน/นักศึกษา ต้องยื่นขอกู้ยืมผ่านระบบ e-studentloan ทาง www.studentloan.or.th ตามปฏิทินเวลาที่กองทุนฯ กำหนด โดยต้องดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้

1) นิสิต นักศึกษาตรวจสอบคุณสมบัติและสาขาวิชาที่สามารถกู้ยืมเงินกองทุน กรอ. ในประกาศสาขาวิชาที่เป็น

ความต้องการหลัก และมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคนทางเว็บไซต์ของกองทุนฯ

2) นักเรียน/นักศึกษาลงทะเบียนรับรหัสผ่าน นักเรียน/นักศึกษาที่มีความประสงค์ขอกู้ยืมสามารถลงทะเบียนเพื่อรับรหัสผ่านในระบบ e-studentloan โดยกองทุนจะนำข้อมูลที่ได้ไปตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นกับกรมการปกครอง หลังจากนักเรียน/นักศึกษาลงทะเบียนรับรหัสผ่านแล้วต้องรอประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อที่กองทุนนำข้อมูลที่ได้ไปตรวจสอบกับกรมการปกครองถึงจะทำขั้นตอนที่ 3 ได้

3) นักเรียน/นักศึกษายื่นแบบคำขอกู้ยืมเงิน นักเรียน/นักศึกษายื่นแบบคำขอกู้ยืมเงินกองทุน กรอ. ผ่านทางระบบ e-studentloan พร้อมพิมพ์แบบคำขอกู้ยืม และแนบเอกสารประกอบเพื่อส่งให้กับสถานศึกษาที่ตนเองจะเข้าศึกษา

4) สถานศึกษาสัมภาษณ์ และคัดเลือก คณะกรรมการของสถานศึกษาจะเรียกนักเรียน/นักศึกษาสัมภาษณ์ และตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อพิจารณาคำขอกู้ยืมเงิน และอนุมัติสิทธิ์การให้กู้ยืม

5) สถานศึกษาบันทึกกรอบวงเงิน(กรณีอนุมัติ) ผู้ปฎิบัติงานกองทุนของสถานศึกษาบันทึกกรอบวงเงินค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องกับการศึกษา ในแต่ละภาคการศึกษาของผู้ขอกู้ยืมเงินเป็นรายคน แต่เมื่อรวมจำนวนทั้งหมดแล้วต้องไม่เกินขอบเขตตามที่กองทุนกำหนด ผ่านทางระบบ e-studentloan

6) สถานศึกษาประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์กู้ยืมเงิน ผู้บริหารของสถานศึกษาประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์กู้ยืมเงินผ่านทางระบบ e-studentloan และปิดประกาศให้นักเรียน/นักศึกษาทรบผลการอนุมัติ

7) นักเรียน/นักศึกษาตรวจสอบผลการอนุมัติ นักเรียน/นักศึกษาตรวจผลการอนุมัติจากประกาศของสถานศึกษา หรือตรวจผลการพิจารณาอนุมัติผ่านทางระบบ e-studentloan

8) นักเรียน/นักศึกษาเปิดบัญชีธนาคาร นักเรียน/นักศึกษาเปิดบัญชีออมทรัพย์ ณ สาขาของธนาคารกรุงไทยหรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยที่ตนเองประสงค์จะใช้บริการ ถ้ามีบัญชีออมทรพัย์ธนาคารกรุงไทยหรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยที่สามารถใช้งานได้อยู่และประสงค์จะใช้ก็ไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่

9) นักเรียน/นักศึกษาทำสัญญากู้ยืมเงิน นักเรียน/นักศึกษาบันทึกข้อมูลในสัญญาผ่านทางระบบ e-studentloan และพิมพ์สัญญา 2 ชุด และจัดหาเอกสารประกอบสัญญาพร้อมลงลายมือชื่อให้ครบถ้วนแล้วนำส่งสถานศึกษาที่ตนเองศึกษา

10) สถานศึกษาตรวจสอบสัญญากู้ยืมเงิน ผู้บริหารของสถานศึกษาตรวจสอบสัญญาของผู้กู้ยืมเงิน ถ้าสัญญาถูกต้องและเอกสารประกอบครบถ้วนแล้ว ให้ยืนยันผลการตรวจสอบผ่านทางระบบ e-studentloan

11) ผู้กู้ยืมบันทึกจำนวนเงินค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องกับการศึกษา ตามที่สถานศึกษาเรียกเก็บจริง ผ่านระบบ e-Studentloan

12) กองทุนฯ ยืนยันค่าครองชีพให้กับผู้ที่ขอรับทุนค่าครองชีพ

13) สถานศึกษาลงทะเบียนค่าเล่าเรียน ผู้ปฏิบัติงานกองทุนของสถานศึกษาบันทึกเงินค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาของภาคเรียนนั้น ๆ ตามที่ผู้กู้ยืมเงินขอกู้จริงแต่ไม่เกินจำนวนเงินที่บันทึกกรอบวงเงินไว้ พร้อมพิมพ์ใบลงทะเบียนให้ผู้กู้ยืมเงินตรวจสอบความถูกต้องและลงนามในเอกสาร

14) นักเรียน/นักศึกษายืนยันจำนวนเงินกู้ยืมในแบบลงทะเบียนค่าเล่าเรียน นักเรียน/นักศึกษาตรวจสอบความถูกต้องและลงนามในเอกสารแบบลงทะเบียนค่าเล่าเรียน

15) สถานศึกษาตรวจสอบใบลงทะเบียน ผู้บริหารของสถานศึกษาตรวจสอบใบลงทะเบียนของผู้กู้ยืมเงินผ่านทางระบบ e-studentloan

16) นักเรียน/นักศึกษารับเงินกู้ยืมค่าครองชีพ(สำหรับผู้ที่ขอรับทุนค่าครองชีพ)

17) สถานศึกษารวบรวมเอกสารสัญญาฯ และเอกสารประกอบ สถานศึกษารวบรวมสัญญา แบบลงทะเบียน และเอกสารประกอบของผู้กู้ยืมเงินในภาคการศึกษานั้น ๆ

18) สถานศึกษาจัดทำใบนำส่งเอกสารสัญญา กรอกข้อมูลในใบนำส่งเอกสารสัญญาแล้วให้ผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อ (ห้ามใช้ตรายางลายมือชื่อ) พร้อมประทับตราสถานศึกษา

19) สถานศึกษานำส่งเอกสาร รวบรวมเอกสารเพื่อนำส่งธนาคารกรุงไทย / ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

ผู้ค้ำประกันในสัญญากู้ยืมเงิน

1. บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง
2. กรณีบิดามารดาเสียชีวิต ให้ผู้ปกครองที่รับอุปการะเลี้ยงดูลงนามแทน
3. บุคคลที่ประกอบอาชีพมีรายได้น่าเชื่อถือ
4. กรณีคู่สมรสของผู้ค้ำประกันไม่ให้ความยินยอมให้ผู้ค้ำประกันลงนามฝ่ายเดียวได้
5. กรณีไม่มีบุคคลค้ำประกัน ให้ใช้หลักทรัพย์แทน

การลงนามค้ำประกันในสัญญากู้ยืมเงิน

ให้ผู้ค้ำประกันลงลายมือชื่อค้ำประกันในสัญญากู้ยืมต่อหน้าสถานศึกษา หากผู้ค้ำประกันมีที่อยู่ห่างไกลจากสถานศึกษาให้จัดส่งสัญญาให้ผู้ค้ำประกันลงลายมือชื่อค้ำประกันได้ และต้องให้เจ้าพนักงานทะเบียนท้องที่ (อำเภอ) หรือเจ้าพนักงานทะเบียนท้องถิ่น (เทศบาลหรือสำนักงานเขต) ในเขตพื้นที่ที่ผู้ค้ำประกันอาศัยอยู่ ลงนามรับรองลายมือชื่อของผู้ค้ำประกัน

ขอบเขตการให้กู้ยืมเงิน
ระดับอนุปริญญาและปริญญาตรี หน่วย:บาท/ปีการศึกษา
กลุ่มสาขาวิชา

อัตราสูงสุด

สังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มุนษยศาสตร์ ศึกษาศาสตร์

ศิลปกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์

วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เกษตรศาสตร์

สาธารณสุขศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เภสัชศาสตร์

แพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์

60,000

70,000

70,000

70,000

90,000

200,000

ระดับ ปวส. หรือเทียบเท่า หน่วย:บาท/ปีการศึกษา
กลุ่มสาขาวิชา

อัตราสูงสุด

พณิชยกรรมหรือบริหารธุรกิจ

ศิลปหัตถกรรมหรือศิลปกรรม

เกษตรกรรมหรือเกษตรศาสตร์

ประมง สิ่งทอ

คหกรรมหรือคหกรรมศาสตร์

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยง

25,000

ช่างอุตสาหกรรมหรืออุตสาหกรรม

เทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสาร

ทัศนศาสตร์ และวิทยาศาสตร์สุขภาพ

30,000

เรื่องอื่นที่ควรถือปฏิบัติ

(1) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ยืมตรงกับความเป็นจริง

(2) ปฎิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วย การบริหารกองทุนเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2549 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตลอดจนข้อบังคับ ประกาศ หลักเกณฑ์ และวิธีการของคณะกรรมการตลอดระยะเวลาที่ขอรับทุน

(3) ดำเนินการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง และต้องเก็บรักษารหัสผ่านที่ได้รับจากกองทุนเพื่อการศึกษาไว้เป็นความลับ หากผู้ใดยินยอมให้บุคคลอื่นดำเนินการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทน ให้ถือว่าเป็นการดำเนินการด้วยตนเอง

(4) แจ้งการเปลี่ยนชื่อ ย้ายที่อยู่หรือย้ายสถานศึกษา และจบการศึกษา หรือพ้นสภาพการเป็นนิสิตหรือนักศึกษา ภายในสิบห้าวันนับแต่วันเปลี่ยนชื่อ ย้ายที่อยู่ ย้ายสถานศึกษา จบการศึกษา หรือพ้นสภาพการเป็นนิสิตหรือนักศึกษา ต่อผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม

(5) แจ้งสภาพการเป็นนิสิตหรือนักศึกษาทุกปีที่ผู้รับทุน(ผู้กู้ยืมเงิน)ไม่ได้รับทุนแต่ยังศึกษาอยู่ ต่อผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม

(6) หน้าที่อื่น ตามที่คณะกรรมการกำหนด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อจำแนกผู้ใช้งานแต่ละคน โดยทำหน้าที่หลักคือประมวลทางสถิติ ตลอดจนลักษณะเฉพาะของกลุ่มผู้ใช้บริการนั้นๆ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะนำมาใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมของผู้ใช้บริการ และมหาวิทยาลัยจะนำผลลัพธ์ดังกล่าวไปใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบสนองความต้องการ และการใช้งานของผู้ใช้บริการให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้และใช้ประมวลผลนั้นจะไม่มีการระบุชื่อ หรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้ใช้บริการแต่อย่างใด อีกทั้งไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ, นามสกุล, อีเมล เป็นต้น และใช้เป็นเพียงข้อมูลทางสถิติเท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้มหาวิทยาลัยสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์สำหรับคุณ และช่วยให้สามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้ในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้คุณสามารถเลือกตัวเลือกในการใช้งานคุกกี้ได้

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้ที่จำเป็น คือคุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้มั่นใจถึงฟังก์ชันพื้นฐานและคุณลักษณะด้านความปลอดภัยของเว็บไซต์

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/เพื่อประสิทธิภาพ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้เราจดจำและนับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์และทราบว่าผู้เข้าชมไปยังหน้าต่างๆ ในเว็บไซต์อย่างไร สิ่งนี้จะช่วยให้เราปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้นได้ในอนาคต ตัวอย่างเช่น ทำให้ผู้ใช้งานพบสิ่งที่ต้องการเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

Save