01) พนักงานมหาวิทยาลัย (ส่วนงาน) สามารถขอผลงานได้ไหม

คำตอบ   พนักงานมหาวิทยาลัยที่ขอตำแหน่ง ได้แก่ พนักงานมหาวิทยาลัยที่จ้างจากงบประมาณหมวดเงินอุดหนุน พนักงานมหาวิทยาลัย (ชื่อส่วนงาน) และพนักงานวิทยาลัยที่ปฏิบัติงานเต็มเวลา

02) ขอให้ช่วยอธิบายให้ชัดเจนเกี่ยวกับ ผลงานทางวิชาการ การเผยแพร่ ว่าถ้าไม่มีงานวิจัยจะต้องเผยแพร่ในรูปแบบใด

คำตอบ  กรณีผลงานที่ไม่ใช่งานวิจัยหรือบทความทางวิชาการ เช่น คู่มือปฏิบัติงาน งานวิเคราะห์ งานสังเคราะห์ ให้เผยแพร่หลังจากผู้ทรงคุณวุฒิประเมินผลงานแล้ว

03) ผลงาน งานวิจัย งานบรรยาย งานอื่นๆ ที่จะขอตำแหน่งมีกำหนดมีช่วงของเวลาของผลงานหรือไม่ที่จะขอตำแหน่งสูงขึ้น

คำตอบ ไม่ได้กำหนดช่วเวลาของผลงาน แต่ควรคำนึงถึงความก้าวหน้าทางวิชาการ ความทันสมัยของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

04) งานวิจัยที่ตีพิมพ์แล้วมีกำหนดเวลาไหมว่าต้องไม่เกินกี่ปี

คำตอบ ไม่ได้กำหนดอายุผลงาน แต่ไม่ควรจะเก่านานมากเกินไป เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าทางวิชาการหรือเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง

05) อว. ใช้ระยะเวลาในการอนุมัติให้ข้าราชการเป็นผู้ชำนาญการเท่าไหร่

คำตอบ ระยะเวลาประมาณ 10-12 เดือน  การอนุมัติเงินประจำตำแหน่งจะมีผลย้อนหลังให้ (ยกเว้นกรณีที่มีการแก้ไขค่างานจะมีผลตั้งแต่วันที่ กบค.อนุมัติผลการประเมินค่างานที่ได้ปรับปรุงใหม่)

06) ขอให้อธิบายอย่างชัดเจนว่า ถ้าพนักงานมหาวิทยาลัย ทำงานมาสองปี สามารถขอชำนาญการพิเศษได้หรือไม่ และถ้าขอได้มีข้อแตกต่างอย่างไร เมื่อเทียบกับพนักงานมหาวิทยาลัยที่ขอชำนาญการพิเศษตามกรอบเวลา

ตอบ การปฎิบัติงานระยะเวลา 2 ปี หากบรรจุด้วยคุณวุฒิ ป.เอก ถือเป็นวิธีปกติ สามารถเสนอขอตำแหน่งสูงขึ้นได้ แต่หากบรรจุด้วยคุณวุฒิที่ต่ำกว่า ให้ถือเป็นวิธีพิเศษ  ซึ่งมีความแตกต่าง คือ การประเมินสมรรถนะ ปริมาณงานฯ จะต้องอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ระดับคุณภาพผลงานสูงกว่าระดับปกติ และจำนวนผู้ทรงคุณวุฒิสูงกว่าวิธีปกติ

07) ผลงานวิจัยสำหรับขอตำแหน่งเชี่ยวชาญมีการกำหนดหรือไม่ว่าต้องตีพิมพ์ในระดับใด Q1 หรือ Q2 หรือผลงานต้องมี Citation ในระดับเท่าไร

คำตอบ  การขอระดับเชี่ยวชาญ งานวิจัยจะต้องอยู่ในฐานข้อมูลระดับชาติ (กลุ่ม 1 หรือ กลุ่ม 2) และหรืออยู่ในระดับนานาชาติ (ไม่ได้กำหนด Q)

08) Proceeding ถือเป็นผลงานหรือไม่

คำตอบ ถือเป็นผลงานเสนอขอตำแหน่งได้ ทั้งนี้ไม่นับรวม Poster

09) ขอให้อธิบายว่างานวิเคราะห์กับงานสังเคราะห์ต่างกันยังไง พร้อมยกตัวอย่างแต่ละงานประกอบ

คำตอบ

งานวิเคราะห์ คือ ผลงานที่แสดงการแยกแยะองค์ประกอบต่าง ๆ ของเรื่องอย่างมีระบบ มีการศึกษาในแต่ละองค์ประกอบและความสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องนั้น ๆ

งานสังเคราะห์ คือ ผลงานที่รวบรวมเนื้อหาสาระต่าง ๆ หรือองค์ประกอบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างรูปแบบหรือโครงสร้างเบื้องต้น เพื่อให้เกิดแนวทางหรือเทคนิควิธีการใหม่ ๆ ในเรื่องนั้น ๆ

10) เกณฑ์ “ดีมาก” , “ดีเด่น” มีข้อกำหนดในเอกสารไหนหรือไม่

คำตอบ   การกำหนดเกณฑ์ประเมินของผลงานแต่ละประเภทสามารถดูรายละเอียดแนบท้ายประกาศมหาลัยมหิดลเรื่อง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินเพื่อแต่งตั้งพนักงานมหาวิทยาลัยประเภทสนับสนุนให้มีความก้าวหน้าในตำแหน่งผู้ชำนาญงาน ผู้ชำนาญงานพิเศษ  ผู้ชำนาญการพิเศษ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้เชี่ยวชาญพิเศษ พ.ศ. 2556

11) ระดับของผลงานที่อยู่ในระดับต่าง ๆ ใครเป็นผู้ประเมิน และมีเกณฑ์ในการประเมินแต่ละระดับอย่างไร

ตอบ   การพิจารณาผลงานจะถูกพิจารณาโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่ผู้เสนอขอตำแหน่งขอรับการประเมิน สำหรับคุณภาพของผลงานจะแตกต่างกันไปตามระดับตำแหน่งที่เสนอขอ

12) เอกสารประกอบคำบรรยายควรมีรายละเอียดยังไงบ้าง

ตอบ หัวข้อการบรรยายต้องมีรายละเอียดครบถ้วน สมบูรณ์ จนสามารถทำความเข้าใจในสาระสำคัญนั้นได้โดยเบ็ดเสร็จ สามารถประเมินความชัดเจนขององค์ความรู้ ความครอบคลุมเนื้อหาและความถูกต้องได้ดียิ่งขึ้น อาจมีภาพ ตัวอย่าง ข้อมูล หรือกรณีศึกษาประกอบ

13) ขอทราบคำจำกัดความของกองทรัพยากรบุคคลว่า full paper, abstract, proceeding มีความหมายอย่างไร

ตอบ full paper หมายถึง ผลงานฉบับเต็มที่มีเนื้อหาครบถ้วน สมบูรณ์ (บทที่ 1 – 5) , abstract หมายถึง ข้อมูลสรุปเนื้อหาของงานวิจัย/บทควมทางวิชาการ ใช้ข้อความสั้น กระทัดรัดและกระชับ (Concision) มีความถูกต้อง (Precision) และมีความชัดเจน (Clarity) , proceedings หมายถึง ชุดเอกสารที่ตีพิมพ์ที่ใช้ประกอบในการประชุมวิชาการในระดับชาติ/นานาชาติ ซึ่งจะอยู่ในรูปของรวมหนังสือการประชุมวิชาการระดับชาติหรือนานาชาติ

14) งานวิจัยที่ส่งในการขอตำแหน่งในระดับชำนาญการพิเศษไม่จำเป็นต้องตีพิมพ์ใช่หรือไม่

ตอบ  กรณีเสนอขอในระดับที่ต่ำกว่าระดับเชี่ยวชาญสามารถเสนองานวิจัยที่ไม่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารได้ แต่ต้องได้รับการเผยแพร่มาแล้วในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งที่กำหนดไว้ในประกาศฯ

15) หากต้องการขอตำแหน่งในระดับเชี่ยวชาญ การใช้ความรู้ความสามารถในงานสนับสนุน ต้องใช้เอกสารประกอบอะไรบ้าง เช่น มีคำสั่งแต่งตั้งหลายคำสั่งเพียงพอหรือไม่ หรือ ต้องมีอย่างอื่นๆ ร่วมด้วย หากต้องมีอย่างอื่นๆ ร่วมด้วยเช่นอะไรบ้าง

ตอบ   การใช้ความรู้  ความสามารถในงานสนับสนุน  งานบริการวิชาการหรืองานวิชาชีพบริการต่อสังคม  ได้แก่

การให้ความเห็น คำแนะนำ หรือเสนอแนะ  การให้คำปรึกษาแนะนำ การอบรมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับหลักการ แนวทาง ระบบ รูปแบบ เทคนิคและวิธีการในการแก้ไขปัญหาหรือการพัฒนางานสนับสนุนงานบริการวิชาการหรืองานวิชาชีพนั้น ๆ เอกสารอาจจะเป็นคำสั่งแต่งตั้ง , หนังสือเชิญเป็นวิทยากร ยกเว้นรูปถ่ายหรือกิจกรรมที่ทำโดยภาระหน้าที่รับผิดชอบ

16) ปัจจุบันระดับ ป.ตรี ขึ้นไป ไม่มีระดับชำนาญการแล้วใช่หรือไม่ เพราะในเอกสารแสดงเป็นชำนาญการพิเศษเลย

ตอบ  กรณีผู้เสนอขอเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยจะเริ่มจากตำแหน่งผู้ชำนาญการพิเศษ สำหรับระดับชำนาญการจะมีเฉพาะบุคลากรที่เป็นข้าราชการ

17) เนื่องจากในการยื่นขอชำนาญการพิเศษ เอกสาร พม. ต่างๆ นั้นจะใช้กระดาษเยอะมาก และปัจจุบันมหาวิทยาลัยกำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็น Digital University ดังนั้นการส่งเอกสาร พม. ประเภทต่างๆ มีแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็น Digital file เช่น PDF หรือไม่

ตอบ  ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายแต่ในอนาคตอาจให้ส่งเป็นอิเล็กทรอนิกส์ไฟล์

18) ถ้าเป็นผู้บรรยายระดับชาติ มีจดหมายเชิญและมี agenda ชัดเจนแล้วมีเอกสารประกอบคำบรรยายนับเป็นผลงานไหม

ตอบ  สามารถนับเป็นผลงานได้

19) ในการขอตำแหน่งเชี่ยวชาญ ผลงานประเภทงานวิเคราะห์หรือบทความทางวิชาการ จำเป็นต้องสอดคล้องกับผลงานคู่มือปฏิบัติงานที่เคยขอในตำแหน่ง (ชำนาญการพิเศษ) ก่อนหน้าหรือไม่

ตอบ  ไม่จำเป็น

20) หากกำลังทำผลงานเพื่อขอตำแหน่งชำนาญการพิเศษ สามารถสะสมผลงานไว้ขอตำแหน่งเชี่ยวชาญควบคู่กันได้หรือไม่

ตอบ สามารถกระทำได้

21) correspondent author เวลาขอตำแหน่งต้องมีเอกสารอะไรแนบประกอบบ้าง

ตอบ  หลักฐานจะปรากฏในผลงานที่ตีพิมพ์อย่างชัดเจน เช่น * หรือ 

22) จะมีแนวโน้มเพิ่มค่าตอบแทนในแต่ละตำแหน่งหรือไม่

ตอบ  ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายเพิ่มเงินประจำตำแหน่ง

23) ถ้าผลงานวิจัย ร่วมกันทำ 2 คนกับเพื่อนร่วมงาน มีส่วนร่วมคนละร้อยละ 50 ทั้ง 2 คนสามารถนำผลงานนั้นไปขอตำแหน่งได้หรือไม่ หมายถึงทั้ง 2 คนส่งสามารถส่งผลงานเดียวกัน ในการใช้ขอตำแหน่ง ได้หรือไม่

ตอบ  กรณีทำผลงานร่วมกัน 2 คน และแบ่งการมีส่วนร่วมร้อยละ 50 เท่า ๆ กัน สามารถนำมาเสนอขอตำแหน่งได้ทั้ง 2 คน ทั้งนี้ควรพิจารณาว่าบุคคลที่ทำงานร่วมกันควรเป็นตำแหน่งเดียวกันและภาระงานที่ได้รับมอบหมายเหมือนกัน

24) งานวิเคราะห์ ถ้าเป็นชื่อสอง ต้องมีส่วนร่วมกี่เปอร์เซ็นต์ถึงใช้ได้ หรือว่าไม่ได้เลย

ตอบ  ขึ้นอยู่กับการตกลงของผู้ร่วมงาน จะมีส่วนร่วมเท่าใดก็นำมาขอตำแหน่งได้ แต่ผู้ขอต้องมีงานหลักของตนเองด้วย

25) ข้าราชการที่จะขอชำนาญการพิเศษ ผลงานในลักษณะอื่น เช่นอะไรบ้าง

ตอบ สิ่งประดิษฐ์ งานสร้างสรรค์ เช่น การสร้างสิ่งมีชีวิตพันธุ์ใหม่ วัคซีน สิ่งก่อสร้าง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือผลงานด้านศิลปะ หรือ สารานุกรม ดนตรี งานแปลจากงานต้นแบบที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ งานด้านปรัชยา ประวัติศาสตร์ หรือวิทยการสาขาอื่นที่มีความสำคัญและทรงคุณค่า ซึ่งทุกผลงานต้องเป็นการเสริมความก้าวหน้าทางวิชาการ

26) ขอตัวอย่าง คำนวณภาระงาน ชั่วโมงการทำงาน หรือเกณฑ์คำนวณ เช่น คูณกี่สัปดาห์ กี่วัน

ตอบ  ทำงานวันละ 7 ชม * 5 วัน * 52 สัปดาห์ (ภาระงานไม่น้อยกว่า 1,380 ชม.ทำการต่อปี โดยไม่ได้คิดเป็นค่าเฉลี่ย)

27) เป็นบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการ ตำแหน่งนักวิชาการศึกษา หากต้องการขอตำแหน่งเชี่ยวชาญก็ต้องทำวิจัยใช่หรือไม่

ตอบ การเสนอขอตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ ต้องทำงานบังคับคืองานวิจัยที่ตีพิมพ์ในฐานข้อมูลระดับชาติ หรือนานาชาติ อย่างน้อย 1 เรื่อง

28) กรณีมิใช่ผู้วิจัยหลัก เเต่มีส่วนร่วมในงานวิจัย น้อยกว่า 10% สามารถส่งงานวิจัยที่มีส่วนร่วมประกอบเป็นผลงานได้หรือไม่

ตอบ สามารถกระทำได้

29) กรณีจบ ป.โท ยื่นขอตำแหน่งชำนาญการพิเศษ ได้หรือไม่

ตอบ สามารถเสนอขอตำแหน่งได้ เมื่อปฏิบัติงานมาแล้วครบ 3 ปี

30) ผลงานที่ถูกใช้ในการขอตำแหน่ง หากได้เกณฑ์ ดีมาก แล้ว คนต่อไปที่นำผลงานแบบเดียวกันมาขอ จะได้เกณฑ์ดีมากเลยหรือไม่

ตอบ หากเสนอขอในตำแหน่งเดียวกัน ระดับเดียวกัน มหาวิทยาลัยจะยืนผลการประเมินเดิมให้กับบุคลากรท่านอื่นที่นำผลงานเรื่องนั้นมาเสนอขอตำแหน่ง

31) สำหรับการขอชำนาญการพิเศษ สามารถทำผลงานวิจัยทั้ง 3 เรื่อง โดยไม่ต้องเขียนคู่มือหรืออื่น ๆ ใช่ไหม

ตอบ เฉพาะตำแหน่งกลุ่มตำแหน่งสายงานวิจัยเท่านั้น สำหรับกลุ่มอื่นๆ ต้องมีงานอื่นร่วมด้วย

32) งานวิเคราะห์ งานสังเคราะห์ ต้องทำขอการรับรองจริยธรรมการวิจัยด้วยหรือไม่

ตอบ ปัจจุบันยังไม่ต้องขอการรับรองจริยธรรมการวิจัย

33) กรณีมีคุณวุฒิปริญญาโท ดำรงตำแหน่งนักวิชาการศึกษามา 7 ปี แต่เพิ่งได้รับการเปลี่ยนเป็นตำแหน่งนักบริหารงานวิจัยมาประมาณ 1 ปี หากจะขอตำแหน่งนักบริหารงานวิจัย (ชำนาญการพิเศษ) จะต้องดำรงตำแหน่งนักบริหารงานวิจัยมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ใช่หรือไม่

คำตอบ  การเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ส่งผลให้หน้าที่ความรับผิดชอบเปลี่ยนไปตามภาระงานที่กำหนดในมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง ดังนั้นผู้ที่เปลี่ยนสามารถกระทำได้ 2 กรณี

  1. ปฏิบัติในตำแหน่งนักบริหารงานวิจัยจนครบ 3 ปี แล้วจึงยื่นเสนอขอตำแหน่ง
  2. หากประสงค์เสนอขอตำแหน่งสูงขึ้นได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องรอระยะเวลาให้ครบสามารถยื่นเรื่องมายังมหาวิทยาลัยเพื่อขออนุมัตินับระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งเดิมรวมกับตำแหน่งใหม่เพื่อใช้เป็นคุณสมบัติในการเสนอขอตำแหน่งสูงขึ้น โดยชี้แจงภาระหน้าที่ความรับผิดชอบในตำแหน่งเดิมและตำแหน่งใหม่ จัดทำตารางเปรียบเทียบภาระงาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงภาระงานที่เคยปฏิบัติในตำแหน่งเดิมและตำแหน่งใหม่ว่ามีความสอดคล้องหรือแตกต่างกันอย่างไร และข้อตกลงการปฏิบัติงาน (PA) ย้อนหลัง 3 ปี หรือ 5 ปี ตามคุณวุฒิแรกบรรจุ เพื่อให้คณะกรรมการฯ พิจารณาการนับระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งเดิมรวมกับตำแหน่งใหม่เพื่อใช้เป็นคุณสมบัติในการเสนอขอตำแหน่งสูงขึ้น
34) ในการอบรมจริยธรรมในคนสามารถใช้ของสถาบันอื่นได้หรือไม่

คำตอบ  ได้

35) พนักงานสายสนับสนุนนำงานที่ทำอยู่มาพัฒนาให้ดีขึ้น โดยการเก็บแบบสอบถามความพึงพอใจ สามารถทำเป็นงานวิจัยได้หรือไม่

ตอบ ได้ แต่ต้องยื่นขอรับรองจริยธรรมการวิจัยในคน

36) การตีพิมพ์กับงานประชุมวิชาการ เหมือนกันหรือไม่

คำตอบ ไม่เหมือนกัน  ถึงแม้ว่าผลงานที่ตีพิมพ์ในวารสารและการประชุมวิชาการจะมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาเหมือนกันแต่ความเข้มข้นเชิงเนื้อหาวิชาการจะมีความเข้มข้นต่างกัน เนื่องจากคุณภาพของระดับการตีพิมพ์ต่างกัน

37) ถ้าทำงานในขอบเขตเดิมแต่ได้รับการเปลี่ยนตำแหน่ง จากผู้ช่วยวิจัยเป็นนักปฏิบัติการวิจัย สามารถนับเวลาต่อเนื่องได้ไหมหรือต้องเริ่มต้นใหม่

ตอบ ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับข้อ 33

38) เอกสารประกอบการบรรยาย มีจุดไหนที่ถูกพิจารณาคะเเนนผลงานระดับไหน เช่น ต้องประเมินพึงพอใจ เกิน 70%

คำตอบ การพิจารณาจะเป็นไปตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดเท่านั้น

39) การตีพิมพ์แบบ review article นับเป็นผลงานประเภทใด

คำตอบ บทความทางวิชาการ

40) ถ้าผลงานวิจัยอยู่ใน Q1จะถือว่าผลงานชิ้นนี้อยู่ในระดับดีเด่นไหม หรือขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการ

คำตอบ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ Q แต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพและเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด

42) เกณฑ์และเอกสารที่ใช้ในการขอตำแหน่งสายสนับสนุน

เกณฑ์


เอกสาร

  1. แบบรายงานผลงานที่เป็นผลการดำเนินงานที่ผ่านมา (พม. 01)
  2. ข้อเสนอแนวความคิด/วิธีการเพื่อพัฒนางานหรือปรับปรุงงาน และแผนงาน/โครงการ
  3. หรือผลงานที่จะทำในอนาคต (พม.02)
  4. แบบเสนอขอแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง (พม.03)
  5. แบบประเมินปริมาณงานในหน้าที่ คุณภาพงานในหน้าที่ (พม.04)
  6. แบบประเมินสมรรถนะ (พม.05)
  7. แบบประเมินการมีส่วนร่วม (พม.06)
  8. ผลงานที่ใช้เสนอขอตำแหน่งสูงขึ้น

ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม คลิก!

41) คู่มือปฏิบัติงานที่มีผู้จัดทำ 2 คน และแบ่งสัดส่วนเท่ากัน ทั้ง 2 คนสามารถนำไปเป็นผลงานที่ตัวเองเป็นชื่อหลักได้หรือไม่

สามารถนำไปเป็นผลงานที่ตัวเองเป็นชื่อหลักได้ ซึ่งการเป็นหลักในผลงานเป็นได้ 3 กรณี ดังนี้

  1. ชื่อแรก (ไม่กำหนดร้อยละการมีส่วนร่วม)
  2. มีส่วนร่วมร้อยละ 50 (ไม่กำหนดลำดับชื่อในผลงาน)
  3. เป็น corresponding author (มีส่วนร่วมอย่างน้อยร้อยละ 10) สำหรับผลงานประเภทงานวิจัย และบทความทางวิชาการ
43) แบบขอตำแหน่งสามารถใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้หรือไม่

แบบเสนอขอแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง (พม.03) เป็นเอกสารที่ส่งให้ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมหาวิทยาลัยพิจารณาประกอบกับผลงานที่ยื่นเสนอขอตำแหน่งสูงขึ้น ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในแบบ พม.03 ได้ (รายละเอียดตามหนังสือ ที่ อว 78 / 04669 เรื่อง การปฏิบัติตามประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำหรับเอกสารภายในมหาวิทยาลัย)

44) การติดตามการขอตำแหน่งสายสนับสนุนสามารถติดตามผ่านช่องทางใดได้บ้าง
  1. ระบบ HR-Connect > ระบบขอตำแหน่งสายวิชาการ/สนับสนุน > ระบบขอตำแหน่งสายสนับสนุน
  2. e-mail: sakaewan.pol@mahidol.ac.th (คุณสแกวรรณ), sujitra.jan@mahidol.ac.th (คุณสุจิตรา)
  3. เบอร์โทรศัพท์ 02-8496388 (คุณสแกวรรณ), 02-8496293 (คุณสุจิตรา)
45) ตัวอย่างผลงานการขอตำแหน่งสายสนับสนุนดูได้ที่ไหน

สามารถดูได้ที่ลิงค์นี้ http://intranet.mahidol/op/orpr/newhr/?page_id=126

46) การเสนอขอตำแหน่งสูงขึ้น หากมีความประสงค์จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโทจำเป็นจะต้องศึกษาในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่ครองอยู่หรือไม่และจะมีผลต่อการเสนอขอตำแหน่งสูงขึ้นหรือไม่
  • การศึกษาต่อไม่ได้กำหนดคุณวุฒิที่จะศึกษาว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่ครองอยู่ แต่ควรเป็นสาขาวิชาที่ศึกษาแล้วสามารถนำความรู้ที่ได้รับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานได้
  • การลาศึกษาต่อโดยใช้เวลาราชการต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้น หากศึกษาต่อโดยใช้เวลานอกราชการควรแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นรับทราบ
47) กรณีที่บุคลากรเปลี่ยนตำแหน่งใหม่และมีความประสงค์เสนอขอกำหนดตำแหน่งสูงขึ้น ซึ่งจะต้องรอให้ครบคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในประกาศฯ จึงส่งผลให้ไม่สามารถเสนอขอตำแหน่งได้และต้องรอระยะเวลาจนกว่าจะครบคุณสมบัติ จะมีวิธีการอย่างไรที่จะสามารถเสนอขอตำแหน่งสูงขึ้นได้โดยไม่ต้องรอให้ครบคุณสมบัติตามที่กำหนด

กรณีเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ส่งผลให้หน้าที่ความรับผิดชอบเปลี่ยนไปตามภาระงานที่กำหนดในมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง ดังนั้นผู้ที่เปลี่ยนตำแหน่งจะต้องรอระยะเวลาจนกว่าจะครบตามคุณสมบัติจึงจะขอตำแหน่งได้ หากประสงค์เสนอขอตำแหน่งสูงขึ้นได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องรอระยะเวลาให้ครบสามารถยื่นเรื่องมายังมหาวิทยาลัยเพื่อขออนุมัตินับระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งเดิมรวมกับตำแหน่งใหม่เพื่อใช้เป็นคุณสมบัติในการเสนอขอตำแหน่งสูงขึ้น โดยชี้แจงภาระหน้าที่ความรับผิดชอบในตำแหน่งเดิมและตำแหน่งใหม่ จัดทำตารางเปรียบเทียบภาระงาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงภาระงานที่เคยปฏิบัติในตำแหน่งเดิมและตำแหน่งใหม่ว่ามีความสอดคล้องหรือแตกต่างกันอย่างไร และข้อตกลงการปฏิบัติงาน (PA) ย้อนหลัง 3 ปี หรือ 5 ปี ตามคุณวุฒิแรกบรรจุ เพื่อให้คณะกรรมการฯ พิจารณาการนับระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งเดิมรวมกับตำแหน่งใหม่เพื่อใช้เป็นคุณสมบัติในการเสนอขอตำแหน่งสูงขึ้น

48) ผลงานที่เคยทำไว้ตอนที่ดำรงตำแหน่งเดิมหากเปลี่ยนตำแหน่งใหม่จะสามารถนำผลงานเดิมมายื่นเสนอขอตำแหน่งสูงขึ้นในตำแหน่งใหม่ได้หรือไม่ อย่างไร

สามารถนำผลงานเดิมที่สร้างสรรค์ไว้ตอนที่ดำรงตำแหน่งเดิมมาประกอบการเสนอขอตำแหน่งได้ โดยผลงานที่นำมาขอตำแหน่งต้องเป็นผลงานที่เกี่ยวข้องสอดคล้องกับตำแหน่งที่ครองอยู่ (ตำแหน่งที่เปลี่ยน) เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรู้ ความสามารถ และความชำนาญในงานของตำแหน่งที่ครองอยู่ (อัปเดต 15/03/67)

49) งานวิจัยที่ใช้เสนอขอกำหนดตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ ต้องตีพิมพ์ในฐานข้อมูลในระดับชาติหรือนานาชาติทุกเรื่องหรือไม่

ตีพิมพ์ในฐานข้อมูลระดับชาติหรือนานาชาติ อย่างน้อย 1 เรื่อง และต้องมีส่วนร่วมเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด (อัปเดต 15/03/67)

50) การใช้ความรู้ความสามารถในงานสนับสนุน หลักฐานที่ใช้ต้องเป็นประเภทใด

การใช้ความรู้ความสามารถในงานสนับสนุน เป็นลักษณะของการบริการสังคม  ได้แก่ การให้ความเห็น คำแนะนำ หรือเสนอแนะ การให้คำปรึกษาแนะนำ การอบรมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับหลักการ แนวทาง ระบบ รูปแบบ เทคนิคและวิธีการในการแก้ไขปัญหาหรือการพัฒนางานสนับสนุน งานบริการวิชาการหรืองานวิชาชีพนั้น ๆ หลักฐานประกอบการพิจารณา เช่น หนังสือเชิญเป็นวิทยากร หนังสือเชิญเป็นที่ปรึกษา หรือคำสั่งแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการหรือที่ปรึกษาในสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ซึ่งควรมีทั้งภายในและภายนอกส่วนงานที่สังกัด (อัปเดต 15/03/67)

51) หากในผลงานนำข้อมูลของส่วนงานมาจัดทำผลงาน ควรดำเนินการอย่างไร

การนำข้อมูลของส่วนงาน เช่น ข้อมูลทางการเงิน หรือข้อมูลที่สำคัญ ควรได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา ว่าอนุญาตให้นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการจัดทำผลงาน เนื่องจากข้อมูลบางอย่างเป็นข้อมูล “ลับ” หรือข้อมูลที่ไม่สมควรเผยแพร่ให้บุคคลภายนอกได้รับทราบ และอาจส่งผลกระทบต่อส่วนงานได้ (อัปเดต 09/04/67)

52) หากในผลงานปรากฏรายชื่อบุคคล หรือข้อมูลที่สำคัญ เช่น เลขที่บัตรประชาชน ควรดำเนินการเช่นไร

ทำเครื่องหมาย “xxx” แทน หรือทำการคาดแถบดำในข้อมูลนั้น ๆ (อัปเดต 09/04/67)

53) Case report สามารถนำมาเสนอขอตำแหน่งสูงขึ้นได้หรือไม่ และจำเป็นต้องขอการรับรองจริยธรรมหรือไม่ อย่างไร

สามารถนำ Case report มาเสนอขอตำแหน่งสูงขึ้นได้ กรณีงานวิจัยที่เป็นการเก็บข้อมูลจาก case report จำนวนหลาย case ต้องแสดงหลักฐานหนังสือรับรอง หรือหนังสือการได้รับอนุญาตให้ทำการวิจัย จากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน หรือคณะกรรมการ พิจารณาโครงการวิจัยที่มีการใช้สัตว์ทดลอง แล้วแต่กรณี (อัปเดต 09/04/67)

54) กรณีที่ผู้ขอตำแหน่งเคยนำผลงานมาใช้ขอตำแหน่งไปแล้ว ผู้ร่วมงานจะนำผลงานนั้นมาขอตำแหน่งสามารถ ใช้ผลการประเมินเดิมได้หรือไม่ อย่างไร

ได้ กรณีการขอกำหนดตำแหน่งสูงขึ้นในระดับตำแหน่งเดียวกัน และสาขาวิชาเดียวกันกับที่ได้เคยขอตำแหน่งสูงขึ้นมาแล้ว หากมีการนำผลงานทางวิชาการเดิมที่เคยเสนอเพื่อพิจารณากำหนดตำแหน่งสูงขึ้นมาก่อนมาเสนอขอกำหนดตำแหน่งสูงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ไม่ว่าผู้ขอตำแหน่งคนเดิมหรือคนใหม่ ให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใช้ผลการพิจารณาผลงานทาง วิชาการเดิมแต่ละเรื่องที่ผ่านการพิจารณามาแล้วนั้น โดยไม่ต้องพิจารณาผลงานทางวิชาการนั้นใหม่อีก เว้นแต่ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเห็นว่าเป็นผลงานที่ไม่เป็นปัจจุบันหรือมีเหตุสมควรอื่นที่ไม่ใช้ผลการพิจารณานั้น (อัปเดต 15/05/67)

55) การเสนอขอตำแหน่งสูงขึ้น โดยวิธีพิเศษ จะทำได้ในกรณีใดบ้าง
  1. กรณีมีระยะเวลาการปฏิบัติงานไม่ครบระยะเวลาตามที่กำหนดไว้สำหรับการขอตำแหน่งสูงขึ้น
  2. กรณีข้ามระดับตำแหน่ง เช่น จากระดับปฏิบัติการ เป็นระดับเชี่ยวชาญ

(อัปเดต 15/05/67)

56) หลักเกณฑ์พิจารณาผู้ทรงคุณวุฒิประเมินคุณภาพผลงาน พิจารณาจากอะไร และจำนวนกี่ท่าน

คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ จะต้องเป็นบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย แต่ต้องอยู่ต่างสังกัดกับผู้ขอแต่งตั้ง ยกเว้นกรณีที่ไม่มีผู้ทรงคุณวุฒิในสาขานั้น ๆ จากบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย ให้พิจารณาจากบุคลากรภายนอกมหาวิทยาลัยได้ โดยกรรมการจะต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความสามารถ ความชำนาญ หรือความเชี่ยวชาญตรงกับวิชาชีพของตำแหน่งที่จะแต่งตั้ง และต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตำแหน่งที่จะแต่งตั้งหรือเทียบเท่า

วิธีปกติ คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ท่าน

วิธีพิเศษ คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 ท่าน

(อัปเดต 15/05/67)

57) เกณฑ์การตัดสินคุณภาพของผลงานและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาชีพของผลงาน มีเกณฑ์อย่างไร
  1. วิธีปกติ ให้ใช้คะแนนตามเสียงข้างมากของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
  2. วิธีพิเศษ ต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 4 ใน 5 เสียงของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

(อัปเดต 04/06/67)