เผยแพร่:
เผยแพร่:
ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ อุณหภูมิความร้อนจะเพิ่มสูงขึ้นทั่วทั้งโลก และมีการคาดการณ์กันว่าประเทศไทยจะมีอุณหภูมิสูงกว่า 45 องศาเซลเซียส ทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งอุณหภูมิความร้อนนี้ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ที่ส่งผลให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ หนึ่งในโรคที่มาพร้อมกับอากาศร้อนและเป็นกันมากคือ “โรคฮีทสโตรก” หรือ “โรคลมแดด”
ปัจจุบันภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ ซึ่งอุณหภูมิของโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับประเทศไทยเรามีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคนี้มากขึ้น โดยข้อมูลจากหน่วยเฝ้าระวังโรค การเสียชีวิตจากภาวะโลกร้อนจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ข้อมูลในปีพ.ศ. 2558-2564 พบว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวน 234 คน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากโรคนี้
“โรคฮีทสโตรก” หรือ “โรคลมแดด” เกิดได้จาก 2 สาเหตุ ได้แก่ 1) Classical Heat Stroke เกิดจากความร้อนในสิ่งแวดล้อมที่อาศัยสูงมากเกินไป คือมากกว่า 40 องศาเซลเซียส จะส่งผลอย่างมากในกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 2) Exertional Heat Stroke เกิดจากการออกกำลังกาย หรือใช้แรงที่หักโหมเกินไปในที่กลางแจ้ง เช่น ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง หรือเล่นกีฬากลางแจ้ง โดยสัญญาณเตือนที่ควรระวังของโรคนี้ คือ ไม่มีเหงื่อออก ผู้ป่วยจะกระหายน้ำมาก ตัวร้อนขึ้นเรื่อย ๆ หน้าแดง ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น ชีพจรเต้นเร็ว หายใจเร็ว วิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ มึนงง อาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ โรคฮีทสโตรกสามารถเกิดได้กับทุกวัย โดยกลุ่มวัยที่น่ากังวลมากที่สุดสำหรับโรคนี้ คือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น ความรุนแรงของโรคที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละช่วงวัย โดยกลุ่มผู้สูงอายุและเด็ก จะมีการปรับตัวต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้นได้ไม่ดีเท่ากลุ่มวัยอื่น ๆ จึงควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ควรจัดให้อยู่ในห้องที่อากาศระบายได้ดี และอย่าปล่อยให้เด็กและผู้สูงอายุอยู่ในรถที่จอดตากแดด หรือปิดสนิทตามลำพัง หรือปล่อยให้ทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน สำหรับเด็ก ๆ แล้ว ความสนุกสนานหรือการเล่นเพลินกับเพื่อน ๆ และกิจกรรมต่าง ๆ อาจนำมาซึ่งอาการป่วยของเด็กได้ ผู้ปกครองควรสังเกตอาการเด็กเวลาทำกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ สิ่งแรกที่เราจะพบในเด็กที่เป็นฮีทสโตรก คือมีอาการตัวแดงเหมือนเป็นไข้ แต่ในขณะเดียวกันเมื่อสัมผัสตัวเด็ก กลับพบว่าตัวเด็กเย็น หรือในบางคนจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ร่วมด้วย
ทั้งนี้ การป้องกันตนเองไม่ให้เกิด “โรคฮีทสโตรก” นั้น ควรต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ดื่มน้ำวันละ 8 -10 แก้ว/วัน สวมใส่เสื้อผ้าโปร่ง ระบายลมได้ง่าย พยายามหลีกเลี่ยงในที่ที่อากาศร้อนและไม่ถ่ายเท หากรู้ล่วงหน้าว่าต้องทำงานหรือไปในที่กลางแจ้ง ควรดื่มน้ำก่อนออกกลางแจ้ง 1-2 แก้ว สวมแว่นกันแดด หรือสวมหมวกที่มีปีก ทาโลชั่นกันแดดที่มีค่า SPF มากกว่า 15 ขึ้นไป
มีข้อแนะนำสำหรับวิธีการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นหากพบเจอผู้ป่วย “โรคฮีทสโตรก”หรือ “โรคลมแดด” คือ ในกรณีที่ผู้ป่วยรู้สึกตัวให้พาผู้ป่วยเข้าที่ร่มทันที จัดให้นอนราบ คลายเสื้อผ้าที่รัดแน่น ปลดเข็มขัด ถอดถุงเท้า รองเท้า และยกเท้าสูงขึ้นทั้ง 2 ข้าง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด เปิดพัดลมหรือแอร์ เพื่อระบายความร้อนให้ผู้ป่วย หากผู้ป่วยยังมีสติ สามารถให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเพื่อลดอุณหภูมิในร่างกายได้ และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมาที่คลินิกเพื่อทำการปฐมพยาบาลต่อไป ในกรณีผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ให้ประเมินการรู้สึกตัวของผู้ป่วยก่อน ประเมินสัญญาณชีพ พาผู้ป่วยเข้าที่ร่มทันที หากประเมินแล้วไม่พบสัญญาณชีพให้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) และส่งต่อโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดต่อไป
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดให้บริการคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ที่มีพยาบาลผู้เชี่ยวชาญประจำ สามารถประเมินและให้การดูแลรักษาผู้ป่วยได้ทันท่วงที เพื่อลดผลกระทบที่รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นต่ออวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ สมอง ไตและกล้ามเนื้อ รวมถึงลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวด้วย คลินิกเปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 16.00 น. ตั้งอยู่ที่หอพักคณะพยาบาลศาสตร์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ สอบถามเพิ่มเติมโทร.02-434-1687
เรียบเรียงบทความ โดย คุณศรัณย์ จุลวงษ์
นักประชาสัมพันธ์ งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional". |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other. |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |