เผยแพร่:
เผยแพร่:
กภ.สุชญา สถาวรานนท์ คณะกายภาพบำบัด ม.มหิดล
ภาวะสมองเสื่อม (Dementia) คือ ความเสื่อมประสิทธิภาพ และสมรรถภาพการทำงานของสมองถดถอยลง เกิดความผิดปกติของสมองที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุมการสั่งการของร่างกาย ในการจดจำ ตัดสินใจ ซึ่งอาจส่งผลถึงอารมณ์ ความคิด การตัดสินใจ บางรายจะมีภาวะอารมณ์แปรปรวน เครียด ซึมเศร้า ปลีกตนเองจากสังคม ซึ่งกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
โดยปกติภาวะสมองเสื่อม มักเกิดกับผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี ที่เกิดจากความเสื่อมลงของร่างกายตามธรรมชาติ แต่ปัจจุบัน พบว่า เกิดกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 65 ปี สูงถึงร้อยละ 8 ของผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมทั้งหมด โดยพบมากในกลุ่มคนวัยทำงาน ทั้งนี้ ในปี 2021 ที่ประชุมนานาชาติของสมาคมโรคอัลไซเมอร์ (AAIC) พบว่า ในประชากร 100,000 คนจะมี 10 คน เป็นโรคสมองเสื่อมก่อนวัย ซึ่งหมายความว่ามีผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมก่อนวัยรายใหม่ทั่วโลกราว 350,000 รายต่อปี
ภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย ผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนกับผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมตามวัย คือ อาการสูญเสียความจำ ลืมเรื่องง่าย ๆ เช่น วัน เดือน ปี สิ่งที่เพิ่งทำ สถานที่ที่เพิ่งไป ลืมนัดสำคัญ มีพฤติกรรมบุคลิกที่เปลี่ยนแปลงไปโดยจะเป็นมากขึ้น เช่น พูดจับใจความไม่ได้ พูดติดขัด พูดเรื่องซ้ำ ๆ หรือนึกคำพูดไม่ออก การตัดสินใจแย่ลง ต้องใช้เวลานานในการตัดสินใจ นำไปสู่ประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง ทั้งนี้ ภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย อาจจะมีข้อแบ่งบ่งชี้ที่สอดคล้อง หรือเหมือนอาการของโรคต่าง ๆ เช่น ภาวะซึมเศร้า ภาวะเครียด โรคทางจิตเวชอื่น ๆ โรคหลอดเลือด หรือเนื้องอกในสมอง และภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
ภาวะสมองเสื่อมก่อนวัยนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
1. ภาวะสมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease: AD) พบในอัตราร้อยละ 34 ที่มีสาเหตุจากการฝ่อของสมองส่วนฮิปโปแคมปัส ซึ่งเกี่ยวข้องกับความจำระยะยาว และโรคนี้สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
2. ภาวะสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมอง (Vascular Dementia) พบในอัตราร้อยละ 18 ที่เกิดขึ้นหลังภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ โดยมีปัจจัยเสี่ยงมาจากภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ที่เกิดขึ้นจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนวัยทำงานยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป พักผ่อนน้อย ขาดการออกกำลังกาย กินอาหารที่มีไขมันสูง หลอดเลือดสมองที่มีหน้าที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง แต่กลับมีไขมันไปสะสมจนหลอดเลือดในสมองเกิดอุดตัน ตีบลง ทำให้เลือดไปเลี้ยงเซลล์สมองได้ไม่เพียงพอ เมื่อสมองขาดเลือด ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองแย่ลง เกิดความเสียหายจนเกิดภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย
3. ภาวะสมองเสื่อมจากสมองส่วนหน้าเสื่อม (Frontotemporal dementia: FTD) พบในอัตราร้อยละ 12 ซึ่งสมองส่วนหน้า เป็นส่วนที่ทำหน้าที่หลักเกี่ยวกับการตัดสินใจและควบคุมอารมณ์ ดังนั้น การที่สมองส่วนนี้ฝ่อ จึงส่งผลให้มีภาวะสมองเสื่อมร่วมกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงได้
4. ภาวะสมองเสื่อมจากลิววีบอดี (Dementia with Lewy bodies: DLBD) พบในอัตราร้อยละ 7 คือ การมีความผิดปกติของโปรตีนที่สะสมกันเป็นกลุ่มก้อนในสมอง มีผลทำให้การทำงานของเซลล์ประสาทแย่ลงจนผู้ป่วยเกิดอาการผิดปกติ โดยผู้ป่วยอาจจะมีปัญหาเรื่องความจำบ้าง แต่ปัญหาหลักของภาวะนี้คือเรื่องของสมาธิ การคิดตัดสินใจ หรือพฤติกรรม การเคลื่อนไหว เช่น วอกแวกง่าย สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สับสน อารมณ์เหวี่ยง
5. ภาวะสมองเสื่อมจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบในอัตราร้อยละ 10 โดยแอลกอฮอล์จะไปยับยั้งการดูดซึมของวิตามินบี 12 และการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลานานยังไปทำร้ายเซลล์สมองทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมก่อนวัยได้อีกด้วย
6. ภาวะสมองเสื่อมจากสาเหตุอื่น ๆ พบในอัตราร้อยละ 19 ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ การมีเนื้องอกในสมอง ภาวะชัก ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ และโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
การดูแลตนเองเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย คือ ลดอาหารจำพวกไขมันอิ่มตัว และอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง เพราะอาหารที่มีไขมันนั้น จะไปอุดกั้นผนังหลอดเลือด นำไปสู่การไหลของเลือดที่ไม่ปกติ ทำให้แรงดันสูงขึ้น หรืออาจเกิดเป็นก้อนเลือดหลุดไปอุดตันเส้นเลือดในสมอง เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีควันบุหรี่ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะทำให้เซลล์สมองเสื่อมเร็วขึ้น ลดความเครียดและระวังภาวะซึมเศร้า ซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดภาวะสมองเสื่อม อาจหากิจกรรมทำเพื่อคลายเครียด เช่น นั่งสมาธิ ฟังเพลง ปลูกต้นไม้ หางานอดิเรก
ระวังเรื่องอุบัติเหตุที่จะทำให้สมองถูกกระแทก พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยให้สมองสามารถเก็บข้อมูลใหม่ ๆ ไว้ในความจำ ตรวจสุขภาพประจำปี หากมีโรคประจำตัว ต้องติดตามการรักษา เช่น ควบคุมความดันโลหิตไม่ให้สูงเกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอท รักษาระดับไขมันและน้ำตาลในเลือด และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
มีการศึกษากล่าวว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิก 2 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 10 นาที ที่ระดับความหนักปานกลาง สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมก่อนวัยได้ ระดับความหนักปานกลาง คือ ระดับที่ยังสามารถพูดโต้ตอบเป็นคำได้ แต่ไม่สามารถร้องเพลงได้ ระดับที่ต้องหายใจเร็วถี่ขึ้น แต่ยังคงหายใจได้สะดวก หรือคำนวณจาก 50-70% ของอัตราการเต้นหัวใจสูงสุด (อัตราการเต้นหัวใจสูงสุด = 220 – อายุ) เช่น
อายุ 20 ปี อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดคือ 200 ครั้ง/นาที (220-20 = 200) ดังนั้น การออกกำลังกายที่ระดับความหนักปานกลางคืออัตราการเต้นของหัวใจอยุ่ที่ 100-140 ครั้ง/นาที (50-70% ของ 200)
ตัวอย่างการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน นอกจากนี้ การฝึกฝนสมอง ให้ได้คิดสิ่งใหม่บ่อย ๆ เช่น อ่านหนังสือ คิดเลข เล่นเกมตอบปัญหา เกมจดจำชื่อ จับผิดภาพ จับคู่ภาพเหมือน ฝึกการทำสิ่งใหม่ ๆ ก็ช่วยกระตุ้นให้สมองทำงานได้ดีขึ้น
ภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อผู้ป่วยเท่านั้น แต่ภาวะสมองเสื่อมยังส่งผลกระทบกับบุคคลครอบครัว คนรอบข้าง โดยเฉพาะทางด้านพฤติกรรม อารมณ์ ดังนั้น หากเราพบความผิดปกติเกิดขึ้นกับคนรอบตัว เช่น สับสนทิศทาง สถานที่ รวมถึงการคิด ตัดสินใจไม่ดีเหมือนเก่าให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย รวมถึงการรับการรักษาทางการแพทย์หรือคำแนะนำในการดูแลต่อไป
เรียบเรียงบทความ โดย คุณพรทิพา วงษ์วรรณ์
นักประชาสัมพันธ์ งานสื่อสารองค์กร กองงบริหารงานทั่วไป
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional". |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other. |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |