ม.มหิดล จัดตั้ง “Asean Primary Healthcare Research & Information Center” ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญสุขภาวะอาเซียน สู่การบรรลุเป้าหมาย SDGs สหประชาชาติภายในปี พ.ศ.2573
17/05/2022ม.มหิดล แนะกินผักปลอดภัย “เทศกาลกินผัก 7 อย่าง” เนื่องในวันตรุษจีน
17/05/2022การแข่งขันกีฬาระดับโลกในปัจจุบัน นอกจากวัดกันด้วยอัจริยภาพของนักกีฬาแล้ว การวางแผน และเตรียมพร้อมที่ดีของนักกีฬาก็เป็นปัจจัยสำคัญในการชี้ชะตาการแข่งขัน
“วิทยาศาสตร์การกีฬา” เป็นการวางแผน และเตรียมพร้อมนักกีฬาด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการฝึกความแข็งแกร่งให้กับกล้ามเนื้อ การป้องกันการบาดเจ็บ การดูแลด้านโภชนาการ หรือการใช้หลักจิตวิทยาในการแข่งขัน ฯลฯ ซึ่งหลักสูตรวิทยาศาสตร์การกีฬาที่เปิดสอนเป็นหลักสูตรแรกในประเทศไทยนั้นมีจุดเริ่มต้นที่ “โรงเรียนกีฬาเวชศาสตร์” ซึ่งเดิมอยู่ภายใต้ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธดิคส์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ก่อนพัฒนาสู่ “วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล” เช่นปัจจุบัน
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์บวรฤทธิ์ จักรไพวงศ์ คณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวถึงภารกิจของวิทยาลัยฯ ในการผลิตบุคลากรทางการกีฬาที่มีคุณภาพ โดยมุ่งหวังให้บัณฑิตสามารถส่งต่อองค์ความรู้ไปยังบุคคลภายนอก ตลอดจนคนรุ่นหลังต่อไปได้ โดยที่วิทยาลัยฯ มีบัณฑิตหลายรายรับใช้ชาติในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทย นอกจากจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่จากการเป็นนักกีฬาผู้มีศักยภาพสูงแล้ว ยังนำมาซึ่งความภาคภูมิใจในการเป็น “ปัญญาของแผ่นดิน” ตามปณิธานของมหาวิทยาลัยมหิดล ผู้สามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนวิทยาศาสตร์กีฬาไปพัฒนาการเล่นกีฬาของตนให้ดีขึ้นต่อไปได้อีกด้วย
นางสาวเบญจพร ลิ้มพานิชย์ หรือ “น้องปิ่นมุก” ว่าที่บัณฑิตใหม่หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเอกการออกกำลังกายและการกีฬา วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้มีกำหนดเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2565 ที่จะถึงนี้ ณ หอประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะ “ปัญญาของแผ่นดิน” ผู้สามารถนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาไปพัฒนาการเล่นกีฬาของตนจนสามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันซีเกมส์ 2019 ให้กับชาติไทยได้อย่างภาคภูมิ
“ยิมนาสติกลีลา” (Rhythmic Gymnastics) เป็นกีฬาที่ได้รับการพัฒนาขึ้นจากกีฬายิมนาสติก (Gymnastics) โดยมีการใช้อุปกรณ์ประกอบการเคลื่อนไหวตามเสียงดนตรี อาทิ บอล (Ball) ริบบิ้น (Ribbin) คฑา (Clubs) ห่วง (Hoop) และ เชือก (Rope) เป็นตัวอย่างของประเภทกีฬาที่ต้องอาศัยทั้งความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหวร่างกายที่อ่อนช้อยประกอบกัน
โดย “น้องปิ่นมุก” ได้กล่าวถึงความยาก-ง่ายของการใช้แต่ละอุปกรณ์ในการแข่งขันกีฬายิมนาสติกลีลาว่ามีความแตกต่างกัน อาทิ ถ้าเป็นลูกบอล และห่วง ซึ่งมีความกลม จะต้องระวังไม่ให้หลุดกลิ้งออกนอกสนาม ถ้าเป็นคฑาต้องระวังไม่ให้โยนแล้วรับพลาด ซึ่งหมายถึงคะแนนการแข่งขันจะถูกหักออกไปด้วย และจะทำอย่างไรให้ริบบิ้นซึ่งมีความยาวถึง 6 เมตรไม่แตะพื้น เป็นต้น
ซึ่งเคล็ดลับของการชิงชัยขึ้นอยู่กับ “สมาธิ” ในขณะแข่งขันด้วย โดย “น้องปิ่นมุก” เล่าว่าเวลาแข่งขันจะตั้งจิตให้จดจ่ออยู่เพียงแค่ สนามแข่ง อุปกรณ์ และตนเองเพียงเท่านั้น หากวันใดที่ตนยังตัดความกลัวและกังวลระหว่างการเล่นไม่ได้ พบว่าวันนั้นจะเล่นออกมาได้ไม่ดี
“กีฬาจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ หากขาดการสนับสนุนจากหลายฝ่าย “ครอบครัว” คือ “กำลังใจ” ความสำเร็จจะบรรลุได้เริ่มต้นด้วย“การตั้งเป้าหมายที่ดีในชีวิต” “น้องปิ่นมุก” กล่าวทิ้งท้าย
สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม / ภาพจากผู้ให้สัมภาษณ์
1.นิตยสารสาระวิทย์ 7-4-65 https://www.nstda.or.th/sci2pub/sport-science-mahidol/
2.ThaiPR.NET 7-4-65 https://www.thaipr.net/education/3177545
3.RYT9.COM 7-4-65 https://www.ryt9.com/s/prg/3312956
4.เมดิคอลไทม์ 7-7-65 http://medi.co.th/news_detail4.php?q_id=840
5.นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน 7-4-65 https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_212950?fbclid=IwAR3P4S2EiYjjr838oqdibshVSonG4lcmFwRrIAiZpwWEjyN4mZhYMVYU3bo6.ศิษย์สัมพันธ์ 12-4-65 https://www.facebook.com/1522824707995171/posts/3163518423925783/?d=n