ม.มหิดลพัฒนา‘ประชากรคุณภาพ’ผ่าน ‘ความงามเชิงวรรณศิลป์’ เตรียมต่อยอดหลักสูตรเสริมทุนมนุษย์
01/11/2024
ม.มหิดลวิจัย‘พลังการเล่น’ – ‘พลังสร้างมนุษย์’
01/11/2024
ม.มหิดลพัฒนา‘ประชากรคุณภาพ’ผ่าน ‘ความงามเชิงวรรณศิลป์’ เตรียมต่อยอดหลักสูตรเสริมทุนมนุษย์
01/11/2024
ม.มหิดลวิจัย‘พลังการเล่น’ – ‘พลังสร้างมนุษย์’
01/11/2024

มหิดลเจาะลึกโรคมะเร็ง-มอบองค์ความรู้ที่ถูกต้องเพื่อประชาชน ‘ใช้ชีวิตด้วยปัญญา’ในโลกที่เปลี่ยนแปลง

การดื่มแอลกอฮอล์นอกจากปลายทางจะพบกับ ความสูญเสีย จากอุบัติเหตุ ยังพบกับ ความเสี่ยง ต่อการเกิด โรคมะเร็ง หลายชนิด สาเหตุสำคัญเกิดจากสารเคมี อะเซตัลดีไฮด์” (Acetaldehyde) ที่มาจาก กระบวนการย่อยสลายแอลกอฮอล์ ของร่างกาย

จากข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมด้านสุขภาพของประชากร ซึ่งดำเนินการทุก 3 ปี โดย สำนักงานสถิติแห่งชาติ ล่าสุดปี พ.. 2564 จากการสำรวจร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ร้อยละ 15.7 ดื่มนานๆ ครั้ง และ ดื่มแล้วขับบางครั้ง ร้อยละ 43.3 ในกลุ่มอายุ 25 – 44 ปี

จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า แม้ประเทศไทยจะมีการรณรงค์เมาไม่ขับอย่างต่อเนื่อง แต่คงไม่อาจตั้งเป้าหมายให้มีผู้ดื่มเครื่องดื่มจากแอลกอฮอล์เท่ากับศูนย์ แม้จะมีกฎหมายเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยบนท้องถนน ตั้งจุดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์กันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาล

ในฐานะสถาบันอุดมศึกษา การให้องค์ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชน ด้วยปณิธานมุ่งสู่การเป็น ปัญญาของแผ่นดิน ของมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อให้สามารถ ใช้ชีวิตด้วยปัญญา ในโลกที่เปลี่ยนแปลง

โดยมีเป้าหมายให้ ดื่มอย่างมีสติ ด้วยความตระหนักถึง ผลกระทบจากแอลกอฮอล์ต่อสุขภาวะ น่าจะเป็นเหตุผลที่เหมาะสมที่สุดในการแสดงความมีส่วนร่วมทำให้สังคมไทยดีขึ้น

รองศาสตราจารย์ ดร. ทันตแพทย์หญิงดุลยพร ตราชูธรรม หัวหน้ากลุ่มวิชาการและวิจัยด้านอาหารและโภชนาการ และกรรมการบริหารหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาพิษวิทยาและโภชนาการเพื่ออาหารปลอดภัย (ภาคปกติ และภาคพิเศษ) สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการวิจัยในกลุ่มตัวอย่างวัยเรียนและวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 20 – 50 ปี และไม่เคยป่วยด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง

โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ตามลักษณะทางพันธุกรรมตามข้อมูลทางมานุษยวิทยา ได้แก่ กลุ่มคนทั่วไป และกลุ่มผู้ที่มี ยีนหน้าแดง” (Mutant ALDH2)

จากการตั้งข้อสันนิษฐานว่าผู้ที่มีเชื้อสาย จีนฮั่นสีผิวขาวเหลือง มีแนวโน้มที่จะมีลักษณะทางพันธุกรรมที่เรียกว่า ยีนหน้าแดงซึ่งบกพร่องในการกำจัดสารพิษ อะเซตัลดีไฮด์” (Acetaldehyde) ที่มาจากการดื่มแอลกอฮอล์ สารพิษดังกล่าวเป็นต้นเหตุของอาการเมาสุรา และเป็นสารก่อมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งตับ มะเร็งช่องปากและคอหอย มะเร็งลำไส้ เป็นต้น

ผู้ที่มียีนหน้าแดงหลังดื่มแอลกอฮอล์เพียงแก้วเดียวจะมีผื่นแดง ขึ้นที่หน้า หู ลำคอ หรือตามลำตัว และมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง สูงกว่าคนทั่วไปหลายเท่า

ผู้วิจัยจึงได้ให้ทั้ง 2 กลุ่มทดลองดื่ม นมเปรี้ยว เพื่อทดสอบผลต่อการลดพิษของแอลกอฮอล์ โดยเป็นนมเปรี้ยวที่บ่มด้วยจุลินทรีย์ที่มีสายพันธุ์เฉพาะซึ่งไม่มีจำหน่ายตามท้องตลาดโดยทั่วไป เพื่อการวิจัยเสริมคุณค่าในการป้องกันโรค และขยายผลสู่ผลิตภัณฑ์คุณภาพต่อไปในอนาคต

เมื่อให้ผู้เข้ารับการทดสอบดื่มนมเปรี้ยวในปริมาณ 150 มิลลิลิตร ประมาณ 5 นาทีก่อนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบว่าสามารถช่วยลดระดับการเกิด อะเซตัลดีไฮด์” (Acetaldehyde) ในเลือดและน้ำลาย ทั้งในคนที่มียีนหน้าแดงและคนทั่วไป ผลวิจัยได้รับการตีพิมพ์แล้วในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ “Food and Function”

อย่างไรก็ดีผู้วิจัยได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะทำให้ประชาชนเกิด ความตระหนัก ในเรื่องสุขภาพและอุบัติภัยที่จะนำไปสู่การสูญเสียชีวิตทั้ง ผู้ดื่มแล้วขับ และ ผู้ร่วมเดินทาง มากกว่าการมอบ ทางเลือกเพื่อลดเมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มี ยีนหน้าแดง ที่มี ข้อจำกัดสูง ในการ กำจัดสารพิษจากแอลกอฮอล์

โลกของการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด ผู้สนใจศึกษาเจาะลึกเกี่ยวกับ โภชนาการกับโรคมะเร็ง สามารถลงทะเบียนในโครงการเรียนรู้ตลอดชีพ MAP-C (Mahidol Apprenticeship Program Curriculum) ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล วิชา NUTS631

เพื่อรับข้อแนะนำต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดูแลตัวเอง และครอบครัว ตลอดจนขยายผลต่อยอดทางการศึกษา และการประกอบวิชาชีพ ได้แก่ ข้อแนะนำด้านอาหารสำหรับป้องกันโรคมะเร็ง การเรียนรู้เกี่ยวกับสารต้านมะเร็งในอาหาร และความปลอดภัยจากสารก่อมะเร็ง ไปจนถึงอิทธิพลของสารอาหารและสภาวะโภชนาการต่อการเกิดมะเร็ง ฯลฯ

และเพื่อให้เข้าถึงความรู้เรื่องโภชนาการมากยิ่งขึ้นในวงกว้าง ผู้สนใจทั่วไปสามารถลงทะเบียนออนไลน์เพื่อเข้ารับการอบรมระยะสั้นแบบกลุ่มคอร์ส (Bundle package) โดยมีให้เลือกเรียนได้ตามความสนใจ ได้ทุกที่ทุกเวลาพร้อมรับประกาศนียบัตรเมื่อวัดผลผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ใน 4 คอร์ส ได้แก่ คอร์สสารก่อมะเร็ง คอร์สผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร : ความจำเป็นและความปลอดภัยอาหาร คอร์สโภชนาการพื้นฐานเพื่อการป้องกันโรค และคอร์สโภชนาการเพื่อควบคุมน้ำหนักอย่างปลอดภัย ทาง https://rb.gy/d6ph1z

โดยในอนาคตจะเปิดให้สามารถขยายผลจากการอบรมระยะสั้นเพื่อเก็บหน่วยกิตสะสมเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรปกติระดับบัณฑิตศึกษา ของ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ต่อไปอีกด้วย ติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook : พิษวิทยาและโภชนาการเพื่ออาหารปลอดภัย https://sites.google.com/view/inmutox

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th

สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิตินวตาร ดิถีการุณ นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ) งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2849-6210

ม.มหิดลร่วมกับเครือข่ายขับเคลื่อนบึงบอระเพ็ดสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
ม.มหิดลพัฒนา‘ประชากรคุณภาพ’ผ่าน ‘ความงามเชิงวรรณศิลป์’ เตรียมต่อยอดหลักสูตรเสริมทุนมนุษย์
ม.มหิดลเตรียมสร้าง Digital Medical Hub ขยายผลโลจิสติกส์ จากภาคสาธารณสุข สู่ภาคการเกษตร
ม.มหิดลเปิดหมวกดนตรีแนวใหม่ ชูพลัง‘Synergy’ เพราะ‘โลกของดนตรี’ไม่ได้มีแค่‘นักดนตรี’
ม.มหิดลชูแนวคิดเกษตรยั่งยืน ‘Resilience Agriculture’ สร้าง ‘เศรษฐกิจชุมชน’ ก่อนก้าวสู่ ‘เศรษฐกิจโลก’
ม.มหิดลพร้อมขับเคลื่อน ESG สู่ชุมชน ชูโครงงานเด่น กินคลีนด้วยจิตตปัญญา-อ่านหนังสือเสียงเพื่อคนตาบอด
ม.มหิดลร่วมสร้าง Supply Chain รับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ดึงดูดการลงทุนด้วยพลัง Hard&Soft Power
ม.มหิดลวิจัยเรียนลัด‘ภาษาจีน’ผ่านทางวัฒนธรรม ร่วมสร้างเศรษฐกิจไทย-จีนบนความเข้าใจอันดี
ม.มหิดลพร้อมรับมือภาวะสูญพันธุ์ปลาน้ำจืดไทย ด้วยภูมิปัญญา‘ชีววิทยาเชิงอนุรักษ์’
ม.มหิดลวิจัยพบว่าการบำบัดผู้ป่วยติดสุรา ได้ผลดี หากไม่ทำแบบตั้งรับ  ผู้ติดสุราจำนวนไม่น้อยกลับไปดื่มสุราหลังจากได้รับการบำบัดเบื้องต้นในสถานพยาบาล
ม.มหิดลลงพื้นที่ชุมชนกะเหรี่ยงโผล่วทุ่งใหญ่นเรศวร วิจัยความมั่นคงทางอาหาร รับภัย Climate Change โลก
ม.มหิดลจับมือนานาประเทศ เสริมพลังเยาวชนไทย ร่วมสืบสานมรดกภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่น