ม.มหิดล ร่วมออกแบบและพัฒนาการจัดการขยะ ด้วยแนวทางการมีส่วนร่วมกับชุมชนเมืองอุตสาหกรรม ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
15/12/2022
ม.มหิดล หวังคนไทยห่างไกลภัยจากอาหารรสเค็ม ด้วยนวัตกรรม “แบบทดสอบความชอบรสเค็ม”
20/12/2022
ม.มหิดล ร่วมออกแบบและพัฒนาการจัดการขยะ ด้วยแนวทางการมีส่วนร่วมกับชุมชนเมืองอุตสาหกรรม ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
15/12/2022
ม.มหิดล หวังคนไทยห่างไกลภัยจากอาหารรสเค็ม ด้วยนวัตกรรม “แบบทดสอบความชอบรสเค็ม”
20/12/2022

ม.มหิดล ค้นพบยาใหม่ยับยั้ง “เชื้อวัณโรคสายพันธุ์ L1.2”

แม้โลกในศตวรรษที่ 21 จะมีเทคโนโลยีทางการแพทย์เจริญก้าวหน้ามากขึ้นเพียงใด แต่โรคที่ยังคงเป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขของโลกในทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนา ได้แก่ “วัณโรค” (Tuberculosis) ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ถือเป็นเป้าหมายสำคัญในการยุติการแพร่ระบาดให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2573 หรือในอีก 8 ปีข้างหน้าตามเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) แห่งองค์การสหประชาชาติ

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ศูนย์วิจัยจีโนมจุลินทรีย์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. นายแพทย์พรชัย มาตังคสมบัติ (Pornchai Matangkasombut Center for Microbial Genomics: CENMIG) ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถือเป็นบุคคลสำคัญในฐานะผู้ผลักดันให้ประเทศไทย ได้เป็นศูนย์กลางในการจัดฝึกอบรม (Training Center) เพื่อพัฒนางานวิจัยทางด้านจีโนมเพื่อการดูแลผู้ป่วยวัณโรคของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากการศึกษาวิจัยทางจีโนมของเชื้อวัณโรคในประเทศไทยร่วมกับทีมวิจัยในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา มีส่วนสำคัญที่เป็นรากฐานให้คณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยร็อคกี้เฟลเลอร์สามารถค้นพบว่า ยาปฏิชีวนะคลาริโธรมัยซิน (Clarithromycin) สามารถยับยั้ง “เชื้อวัณโรคสายพันธุ์L1.2” ซึ่งมักพบมากในประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางประเทศได้เมื่อเร็วๆ นี้

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ได้อธิบายว่า “เชื้อวัณโรคสายพันธุ์ L1.2” เกิดจากการกลายพันธุ์ของเชื้อวัณโรคที่มีมาตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษของประชากรต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สายพันธุ์กลุ่มนี้ในประเทศไทยได้รับการค้นพบ และรายงานโดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ และทีมวิจัย ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2540

โดยในขณะนั้นใช้ชื่อว่า “เชื้อวัณโรคสายพันธุ์นนทบุรี” เนื่องจากเป็นเชื้อตัวอย่างที่มาจาก สถาบันโรคทรวงอกจังหวัดนนทบุรี แต่ต่อมาได้เปลี่ยนมาใช้วิธีการแยกสายพันธุ์แบบใช้ข้อมูลทางพันธุกรรม หรือ “จีโนม” (Genome) จึงมีชื่อเป็นแบบตัวเลขแทน

ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่า “เชื้อวัณโรคสายพันธุ์ L1.2” ก่อโรครุนแรงกว่าปกติ จากการดำเนินงานวิจัยทราบเพียงว่าพบมากในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ได้ร่วมกับทีมวิจัยทำการศึกษาจนสามารถพบว่า การกลายพันธุ์ที่ตำแหน่งเบส 189 ของยีน whiB7 ทำให้เชื้อวัณโรคเปลี่ยนจาก “ดื้อยา” คลาริโธรมัยซิน มาเป็น “ไวต่อยา” ได้

ต่อมาคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยร็อคกี้เฟลเลอร์ ได้ศึกษาต่อไปถึงรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และพบว่าการกลายพันธุ์ดังกล่าวเป็นลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์ L1.2 ที่พบได้ในประเทศต่างๆ ในบริเวณทะเลจีนใต้ และมหาสมุทรแปซิฟิค  ซึ่งมีผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ยังได้ให้ข้อสังเกตว่า สายพันธุ์ของเชื้อวัณโรคมีความสัมพันธ์กับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการย้ายถิ่น เชื้อชาติ และภาษา ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการศึกษาวิจัยต่อยอดในเชิงนโยบายเพื่อหาแนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้นต่อไป

“วัณโรคในปัจจุบันแม้จะยังคงมีการระบาดอย่างแพร่หลายในบางพื้นที่ แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ “การติดเชื้อดื้อยา” ที่ทำให้โลกต้องสูญเสีย จากจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ”

“จึงถือเป็นภารกิจสำคัญของ ศูนย์ CENMIG คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะ “ปัญญาของแผ่นดิน” ตามปณิธานของมหาวิทยาลัยมหิดล ในการศึกษาวิจัยปัจจัยทางพันธุกรรมของเชื้อวัณโรค เพื่อมวลมนุษยชาติรอดพ้นมหันตภัยติดเชื้อดื้อยาดังกล่าว โดยจะเริ่มต้นศึกษาการแพร่กระจายของเชื้อวัณโรคที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งหากได้ผลออกมาดี จะเป็นประโยชน์ในการควบคุมโรคติดเชื้อดื้อยาได้ต่อไปในวงกว้าง” ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th


สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ)
งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2849-6210

1.นิตยสารสาระวิทย์ 24-11-65 https://www.nstda.or.th/sci2pub/tuberculosis-l1-2/

2.นครเชียงรายนิวส์ 23-11-65 https://www.nakornchiangrainews.com/content/637e19699de6da370558471d

https://www.blockdit.com/posts/637e19e6aaf26debf1017e2e

https://twitter.com/NakornCRNews/status/1595402545349898240?s=20&t=_xbu5qESZAEpvswwBKLwFQ

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=510660751079997&id=100064082292338&mibextid=qC1gEa

3.ThaiPR.NET 24-11-65 https://www.thaipr.net/education/3272058

4.RYT9.COM 24-11-65 https://www.ryt9.com/s/prg/3377003

5.newswit 24-11-65 https://www.newswit.com/th/Lthz

6.Edupdate 24-11-65 https://www.edupdate.net/2022/30287/

7.เมดิคอลโฟกัส 24-11-65 https://www.medicalfocusth.com/main/index.php?page=news.read&type=1&id=1451&fbclid=IwAR0Mz71ZnYeADDdLjoxN4NjI2oczR5HOYNRoIAn-Q9-Sd3m_U4C6MNH78_Q

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02AMicdRMHb99KMYFrUhJBJwxebNFetjxGrsANZ578pJA9RhoQDHGQi4AWtidu789cl&id=100077220264196&mibextid=YsHG2a

https://linevoom.line.me/post/_dY8ia-uRkM0QeIk-suYxDnrCWymKH2kQKDPpzxU/1166925424210880404

8.เมดิคอลไทม์ 24-11-65 http://medi.co.th/news_detail41.php?q_id=1576

9.Health News Thailand 25-11-65 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02LKssW3qTu5g9kQ4Ukvs5GzPW6LGME8Cb1mdcG1dizsY1not471dqJfxyGPpcyyuDl&id=100063469781201&mibextid=YsHG2a

10.Thai Innovation Center 30-11-65  https://thaiinnovation.center/2022/11/clarithromycin/?fbclid=IwAR3vo-SZVSPZABrdoU5b09p1bUeJwXfaDYkg2LkrgBa7ho3wv80_zzm_VqA

https://www.facebook.com/thaiinnovationcenter/posts/pfbid02dYc9rrj2sdCFpn9FnjM6cfZ78oK8N1nJysEu6HdnmY4cXv8h5feonvi8WQtHiCkdl