ม.มหิดลเผยกลยุทธ์ใช้เกณฑ์ TQA เพื่อการเรียนรู้-พัฒนาสู่ World Class University
09/07/2025
.มหิดลร่วมผลักดัน ‘ธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน’ บรรลุเป้าหมาย SDGs
09/07/2025
ม.มหิดลเผยกลยุทธ์ใช้เกณฑ์ TQA เพื่อการเรียนรู้-พัฒนาสู่ World Class University
09/07/2025
.มหิดลร่วมผลักดัน ‘ธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน’ บรรลุเป้าหมาย SDGs
09/07/2025

ม.มหิดลสอนสะเต็มศึกษา’เด็กโฮมสคูล’ เสริมทักษะด้านเทคโนโลยีสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์

เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงไม่ได้มีอยู่แค่ในห้องเรียน แต่คือ สนามชีวิต ที่ต้องเผชิญและใช้เวลาในการเรียนรู้ พร้อมเติบโตและปรับตัวไปกับความเปลี่ยนแปลง

ในขณะที่เด็กทั่วไปกำลังนั่งฟังครูสอนอย่างตั้งอกตั้งใจในชั้นเรียน แต่เด็ก โฮมสคูล (Home School) มีโลกทั้งใบ ที่อยู่ตรงหน้า ให้คอยค้นหาคำตอบ

ยุทธศาสตร์ชาติประกาศให้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือ สะเต็มศึกษา” (STEM – Science,

Technology, Engineering and Mathematics) เป็นธงนำพัฒนาสู่ ประเทศแห่งนวัตกรรม ที่รับเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาเป็นหัวใจของสรรพสิ่งซึ่งขับเคลื่อนด้วย สมองของคอมพิวเตอร์

ภายใต้การควบคุมโดย การเขียนโปรแกรม” (Coding) จาก มันสมองของมนุษย์ จึงเกิดเป็นโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “STEM & Robotics Camp” ที่เปิดโอกาสให้เด็กโฮมสคูลได้ร่วมสัมผัสเป็นครั้งแรกที่ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จังหวัดนครปฐม

เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มนต์อมร ปรีชารัตน์ อาจารย์ประจำสถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะ ปัญญาของแผ่นดิน ได้เป็นผู้นำเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุดให้เด็กโฮมสคูลวัยประถม – มัธยมได้มีเวทีแสดงออกถึงอัจฉริยภาพที่ซ่อนอยู่ ตลอดจนได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ และมีโอกาสร่วมกันทำงานเป็นทีมสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากโจทย์ที่ท้าทาย

โดยการจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “STEM & Robotics Camp” นี้ มีคณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ของสถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกันถ่ายทอดเทคนิคการเขียน Coding เพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่

พร้อมดูแลให้น้องๆ ในค่ายได้ทั้งสนุกและได้ความรู้จากการปฏิบัติภารกิจจากโจทย์ที่ใช้ในการจัดกิจกรรม คือ การเขียนโปรแกรมเพื่อใช้ควบคุมเซนเซอร์ของ “Robotic War” หรือ หุ่นยนต์รบ ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนในแต่ละทีมสามารถออกแบบได้ตามจินตนาการ

กติกากำหนดให้ทีมที่ชนะเลิศ คือทีมที่สามารถออกแบบให้รถหุ่นยนต์ ตีแตก คู่ต่อสู้ ซึ่งมี ลูกโป่ง เปรียบเสมือน ฐานกำลัง ให้ได้มากที่สุด พร้อมกับต้องคอยระวังฐานกำลังของตัวเองไปด้วยในขณะเดียวกัน ซึ่งนอกจากจะต้องอาศัยทักษะการเขียนโปรแกรมที่เป็นเลิศแล้ว ยังต้องอาศัย ทีมเวิร์ค ในการตกแต่งรถหุ่นยนต์ตามแบบฉบับของทีม พร้อมติดตั้งอาวุธที่ทำมาจากไม้จิ้มปลายแหลม ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่หาได้ทั่วไป ประกอบกับการวางแผนควบคุมการเคลื่อนที่ของรถหุ่นยนต์ที่เหนือชั้น

ที่ผ่านมา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มนต์อมร ปรีชารัตน์ มีผลงานโดดเด่นด้านการประดิษฐ์นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้จากวัสดุที่หาได้จากรอบตัว ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการจัด “STEM & Robotics Camp” เพื่อเป็นแบบอย่างให้เด็กๆ ในค่ายได้รู้จัก รักษ์โลก ด้วยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) แห่งสหประชาชาติ ข้อที่ 12 ที่ว่าด้วยความรับผิดชอบในการใช้ทรัพยากรอย่างรู้ค่า (Responsible Consumption and Production)

“หุ่นยนต์เพื่อการเรียนรู้เป็นสื่อการสอนที่มีราคาแพง ทำให้เข้าถึงได้เฉพาะเด็กบางกลุ่ม จะทำอย่างไรให้เด็กทุกคนสามารถเข้าถึงได้จึงเป็นสิ่งที่ท้าทาย เราสามารถส่งเสริมให้เด็ก โตกว่าอายุจริง จากการทดลอง  และริเริ่มสิ่งใหม่ด้วยตัวเองได้ ขอเพียงไม่ปิดกั้นจินตนาการแห่งการเรียนรู้” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มนต์อมร ปรีชารัตน์ กล่าว

และเนื่องด้วยการจัดค่ายในครั้งนี้ได้เปิดกว้างให้เด็กเล็ก พร้อมผู้ปกครองได้เข้ามาร่วมเรียนรู้ด้วย จึงนับเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างเสริมสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัวไปด้วยในตัว ซึ่งครอบครัวที่มาเข้าร่วมไม่เพียงเพราะต้องการให้ลูกได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ แต่พร้อม เติบโตไปกับลูก จากการได้ร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกับลูก

คุณแม่หลันศิราวดี ศุมานนท์ ผู้ปกครองของ น้องบุนัย ธารา มานะนัด น้องโฮมสคูลชั้นป.1 ที่จัดเป็นรุ่นเล็กที่สุดของค่าย เชื่อมั่นว่าหากให้ลูกได้เรียนรู้ตามความสนใจ จะทำให้เด็กเติบโตได้อย่างมีความสุข แม้อนาคตลูกจะยังคงสนใจเรื่องหุ่นยนต์ต่อไปหรือไม่ ไม่สำคัญเท่าจะทำอย่างไรให้ลูกยังไม่หมดไฟที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่

น้องไททันไทธรรม์ ทินกร ณ อยุธยา วัย 9 ขวบ คือตัวอย่างของเด็กโฮมสคูลในค่าย ที่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ด้วยการ คิดนอกกรอบ จากการพยายามสอดแทรกไอเดียใหม่ๆ ลงไปในการร่วมทีมประดิษฐ์ “Robotic War” จากการเขียนโปรแกรมให้มี  มาริโอ้ ไว้ที่หน้าจอรถหุ่นยนต์เพื่อสร้างสีสันให้กับการแข่งขัน โดยมองว่าด้วยทักษะการเขียน Coding ที่ได้จากกิจกรรม “STEM & Robotics Camp” ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ นอกจากจะได้ความสนุกสนาน และได้เพื่อนแล้ว ยังอาจสามารถนำไปประยุกต์ใช้จริงเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้ต่อไปในอนาคต

ก้าวต่อไป ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มนต์อมร ปรีชารัตน์ ตั้งใจว่าจะขยายผลการจัดกิจกรรม “STEM & Robotics Camp” ออกไปยังทั่วประเทศ ด้วยการจัดอบรมทักษะด้านการเขียน Coding ให้กับครูผู้สอน และจะร่วมกับทีมช่วยกันผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่จากการประดิษฐ์บอร์ดขยายสำหรับไมโครบิตเพื่อประกอบการเรียนการสอนขึ้นไว้ใช้เองได้ต่อไป

โดยหวังให้ความรู้ทางด้านการเขียน Coding ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของ สะเต็มศึกษา นี้ จะทำให้ เด็กโฮมสคูล ได้มีทักษะพื้นฐานเพื่อร่วมพัฒนาประเทศชาติได้ต่อไปในอนาคต

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th

ข่าวได้รับการเผยแพร่ทางสื่อมวลชน

1.เมดิคอลไทม์ 9-4-66 http://medi.co.th/news_detail41.php?q_id=2082

2.ThaiPR.NET 11-4-66 https://www.thaipr.net/education/3325571

3.RYT9.COM 11-4-66 https://www.ryt9.com/s/prg/3413374

4.newswit 11-4-66 https://www.newswit.com/th/M4cd

5.Edupdate 11-4-66 https://www.edupdate.net/2023/33957/

6.ThaiPublica 11-4-66 https://thaipublica.org/2023/04/mahidol-university-homeschool-pr-11042023/

https://twitter.com/mahidolpr/status/1645984953342246913?s=20

7.thinsiam 7-4-66 http://www.thinsiam.com

8.นิตยสารสาระวิทย์ 12-4-66 https://www.nstda.or.th/sci2pub/stem-homeschool/

9.thailand4 13-4-66 https://www.thailand4.com/th/M4cd

10.คอลัมน์ถูกทุกข้อ นสพ.ไทยโพสต์ 22-4-66 หน้า 5 https://op.mahidol.ac.th/ga/wp-content/uploads/twitter/news-2023-3-24-9.pdf

ปิดโหมดสีเทา