ม.มหิดลแนะฝึก‘รู้เท่าทันจิต‘ ลด‘มลพิษทางสังคม’ ต่ออนาคตโลก
07/07/2025
ม.มหิดลสร้างนวัตกรรมแบบจำลองประเมินความเสียหายแผ่นดินไหวด้วยพหุฟิสิกส์
07/07/2025
ม.มหิดลแนะฝึก‘รู้เท่าทันจิต‘ ลด‘มลพิษทางสังคม’ ต่ออนาคตโลก
07/07/2025
ม.มหิดลสร้างนวัตกรรมแบบจำลองประเมินความเสียหายแผ่นดินไหวด้วยพหุฟิสิกส์
07/07/2025

ม.มหิดลชี้อันตรายจากโรคไวรัสตับอักเสบ ป้องกันก่อนคุกคามชีวิต

โรคตับอักเสบจากเชื้อไวรัส เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญของคนไทย โดยปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเพียง 2 ชนิด ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ บี ซึ่งเป็น วัคซีนพื้นฐาน ที่กำหนดให้ฉีดในเด็กแรกเกิดซึ่งคลอดในโรงพยาบาลทุกราย และวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ เอ ซึ่งเป็น วัคซีนทางเลือก

แพทย์หญิงเจนจิรา ทองดี แพทย์อายุรกรรมโรคระบบทางเดินอาหาร ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า โรคตับอักเสบจากเชื้อไวรัสที่พบในปัจจุบันมีทั้ง เอ บี ซี ดี และอี แม้วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบจะมีเพียง 2 ชนิด ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ เอ และ บี แต่หากได้รับการฉีดจนครบตามจำนวนเข็มที่กำหนดจะทำให้สามารถดำเนินชีวิตด้วยความมั่นใจ โดยทั้ง 2 โรคอาจเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตจากภาวะตับล้มเหลวเฉียบพลัน

ไวรัสตับอักเสบแต่ละชนิดสามารถติดต่อได้แตกต่างกัน ได้แก่ เอ สามารถติดต่อได้จากอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสก่อโรค ในขณะที่ไวรัสตับอักเสบ บี สามารถติดต่อได้จากเพศสัมพันธ์ และทางเลือด

ไวรัสตับอักเสบ ซี ผู้ป่วยมักติดเชื้อจากการได้รับเลือด ที่ไม่ผ่านการคัดกรองไวรัส รวมถึงกลุ่มคนที่ใช้สารเสพติดฉีดเข้าเส้นเลือด การสัก เจาะร่างกาย การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ

ไวรัสตับอักเสบ อี เกิดจากการรับประทานเนื้อหมูที่ปรุงไม่สุกที่มีเชื้อไวรัส

ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบ จะมีอาการตับอักเสบเฉียบพลันได้ โดยจะมีไข้ คลื่นไส้อาเจียน ตัวเหลืองตาเหลือง ไวรัสตับอักเสบบางกลุ่ม ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบบี และซี จะก่อให้เกิดตับอักเสบเรื้อรัง เสี่ยงต่อการเกิดตับแข็งและมะเร็งตับได้

วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบจะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส ลดโอกาสเกิดตับอักเสบและลดความเสี่ยงในการเกิดตับแข็งได้

วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ เอ ในปัจจุบันสามารถป้องกันโรคได้ 95 – 100% โดยต้องฉีดวัคซีน 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ บี ให้ได้ผล ควรฉีดให้ครบ 3 เข็ม จากผู้ผลิตต่างกันได้ โดยเข็มสอง ควรฉีดห่างจากเข็มแรกประมาณ 1 – 2 เดือน และเข็มสามควรฉีดห่างจากเข็มแรกประมาณ 6 เดือน โดยสามารถป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ บี ได้ถึงร้อยละ 95

วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ เอและ บีเปิดให้บริการทุกวันโดยไม่ต้องนัดหมาย พร้อมเข้ารับการตรวจภูมิก่อนเข้าสู่โปรแกรมฉีดได้ที่ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.gj.mahidol.ac.th

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th

ภาพจาก ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

ข่าวได้รับการเผยแพร่ทางสื่อมวลชน

1.Onlinenewstime 13-12-66 https://www.onlinenewstime.com/mahidol-university-warns-danger-of-hepatitis-ask-to-prevent-before-life-is-threatened/pr-news/

2.เมดิคอลโฟกัส 15-12-66 https://www.medicalfocusth.com/main/index.php?page=news.read&id=1822

https://www.facebook.com/share/p/fJqL5DZU7goTkSr1/?mibextid=aubDjK

3.เมดิคอลไทม์ 15-12-66 http://www.medi.co.th/news_detail41.php?q_id=3122

4.คอลัมน์ Tricks for Life นสพ.ฐานเศรษฐกิจ 17 – 20 ธันวาคม 2566 หน้า 15 https://op.mahidol.ac.th/ga/wp-content/uploads/twitter/news-2023-12-18-1.pdf

https://www.thansettakij.com/blogs/health/wellbeing/583534

5.นิตยสารสาระวิทย์ 19-12-66 https://www.nstda.or.th/sci2pub/hepatitis/

6.นสพ.ไทยโพสต์ 20-12-66 หน้า 7 https://op.mahidol.ac.th/ga/wp-content/uploads/twitter/news-2023-12-20-3.pdf

ปิดโหมดสีเทา